ในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีชายหนุ่มชื่อจวนผู้ขยันขันแข็ง แต่ยากจน ในขณะที่เพื่อนบ้านของเขาชื่อมัดหวายเป็นคนร่ำรวย แต่ขี้เกียจ มัดหวายเห็นความขยันของจวน จึงคิดแผนการเอาเปรียบ
วันหนึ่ง มัดหวายเสนอให้จวนทำงานในไร่ของเขา โดยสัญญาว่าจะจ่ายค่าแรงเป็นเงินก้อนใหญ่ จวนตอบตกลง และทำงานหนักทั้งวันโดยไม่บ่น
แต่เมื่อถึงเวลาจ่ายค่าแรง มัดหวายกลับจ่ายเพียงครึ่งเดียวของที่ตกลงไว้ จวนรู้โกรธมาก แต่มัดหวายกลับหัวเราะเยาะและบอกว่า "ฉันเป็นเจ้าของที่ดิน ฉันจะทำอะไรก็ได้ที่ฉันต้องการ"
จวนเสียใจและสิ้นหวัง แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้ เนื่องด้วยมัดหวายเป็นคนร่ำรวยและมีลูกน้องสมุนมากมายเป็นพรรคพวกของเขา
สุดท้ายแล้วจวนก็ได้ยินเสียงกระซิบในหัวใจลึก ๆ ของเขาว่า "อย่าสิ้นหวัง จงยิ้ม และเรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง" จวนจึงตั้งใจทำงานด้วยความขยันขันแข็งต่อไป และไม่ยอมให้ใครเอาเปรียบเขาอีก
ไม่กี่ปีต่อมา จวนยังคงทำงานด้วยความขยันขันแข็ง มองโลกในแง่ดี จนกระทั่งวันหนึ่ง ขณะที่เขาทำงานอยู่ในไร่ของตนเอง เขาก็พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่หลงทางและกำลังจะจมน้ำในแม่น้ำ
จวนรีบช่วยหญิงสาวขึ้นมาและพาเธอไปที่บ้านของตนเองเพื่อให้ความช่วยเหลือ หญิงสาวชื่ออลิสา ซึ่งเป็นลูกสาวของขุนนางผู้มั่งคั่งที่กำลังมารับตำแหน่งเจ้าเมืองที่จวนอาศัยอยู่นั่นเอง
อลิสาซาบซึ้งในความดีมีเมตตาของจวน และเล่าเรื่องราวของเขาให้บิดาฟัง บิดาของอลิสาโกรธมากกับเรื่องที่มัดหวายเอาเปรียบจวน จึงสั่งให้มัดหวายจ่ายค่าแรงที่ค้างทั้งหมดให้กับจวน และยังริบที่ดินของมัดหวายไปครึ่งหนึ่งเพื่อเป็นการลงโทษ
มัดหวายจากคนร่ำรวยสู่สามัญชนคนรากหญ้าธรรมดา รู้สึกเสียใจและสำนึกผิดในสิ่งที่ตนเองได้กระทำ เขาเรียนรู้ว่าการเอาเปรียบผู้อื่นจะนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่เลวร้าย และการทำงานด้วยความซื่อสัตย์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด
จวนและอลิสาแต่งงานกันและใช้ชีวิตอย่างมีความสุข พวกเขาไม่เคยลืมบทเรียนที่พวกเขาได้เรียนรู้ และใช้ชีวิตโดยยึดหลักความซื่อสัตย์และความเมตตา
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า
การเอาเปรียบผู้อื่น จะนำมาซึ่งผลลัพธ์อันเลวร้าย ในทางกลับกัน การมองโลกในแง่ดี ใช้ชีวิตยึดหลักความสื่อสัตย์ และความเมตตา จะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรื่องในชีวิต
(คลิป)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น