มีคนบางคนเมื่ออยู่กับเราก็นินทาคนอื่นให้เราฟัง และเช่นกันเมื่อเขาอยู่กับคนอื่นก็มีโอกาสนินทาเราให้เขาฟัง เปรียบดั่งนิทานเรื่องนี้
กาลครั้งหนึ่งในป่าอันเงียบสงบ มีกวางตัวหนึ่งอาศัยอยู่ โดยมีนิสัยแปลกประหลาด มันชอบการซุบซิบนินทาว่าร้ายให้ผู้อื่นเสียหาย ไม่ว่ามันจะไปที่ใดและเจอกับใคร มันก็อดไม่ได้ที่จะเอาเรื่องของผู้อื่นมานินทา และเมื่อมันเดินไปเจอกับแมว
"เฮ้ย! เจ้าแมว ข้ามีความลับของเจ้าม้ามาบอก รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ ห้ามบอกใครต่อ คือ ข้ารู้มาว่า เจ้าม้าน่ะ มันไม่ชอบอาบน้ำ ใครเข้าใกล้ล่ะก็เป็นต้องได้กลิ่นเหม็นสาบจากมันหมดอ่ะ แล้ว ๆ ที่น่ารังเกียจกว่านั้นคือ ไม่รู้ทำไมเจ้าม้ามันไม่ค่อยชอบแมวอย่างเอ็งด้วยสิ ทั้งที่เอ็งออกจะน่ารัก" ว่าแล้ว หลังจากพูดจบ เจ้ากวางก็เดินจากไป จนกระทั่งมันเดินไปเจอกับม้า
"เฮ้ย! เจ้าม้า ข้าเจอเอ็งก็ดีแล้ว ข้ามีความลับมาบอก รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ ห้ามบอกใครต่อ คือ ข้ารู้มาว่าเจ้าช้างน่ะ มันเป็นสัตว์ที่โง่มาก ๆ ตัวใหญ่ซะเปล่า แต่สมองไม่มีเลย ฮ่าๆๆ แล้ว ๆ ที่น่ารังเกียจกว่านั้นคือ ไม่รู้ทำไมเจ้าช้างมันไม่ค่อยชอบม้าอย่างเอ็งด้วยสิ ทั้งที่เอ็งออกจะนิสัยดี" ว่าแล้ว หลังจากพูดจบ เจ้ากวางก็เดินจากไปอีกเช่นเคย จนกระทั่งมันเดินไปเจอช้าง
"เฮ้ย! เจ้าช้าง อยู่นี่เองไม่ได้เจอกันนานเลย เอ้อ! ข้ามีความลับของเจ้าแมวมาบอก รู้แล้วเหยียบไว้เลยนะ ห้ามบอกใครต่อ คือ ข้ารู้มาว่าเจ้าแมวน่ะ มันนอนกรนเสียงดังมาก ๆ เวลามันนอนหลับนะ โอ้โฮ! ใครได้นอนกับมันเป็นไม่ได้หลับทั้งคืนอ่ะ ฮ่าๆๆ แล้ว ๆ ที่น่ารังเกียจกว่านั้นคือ ไม่รู้ทำไมเจ้าแมวมันไม่ค่อยชอบช้างอย่างเอ็งด้วยสิ ทั้งที่เอ็งออกจะน่าคบซะขนาดนี้" ว่าแล้ว หลังจากพูดจบ เจ้ากวางก็เดินหน้าตาเฉยจากไปอีกเช่นเคย
ทว่าในป่าแห่งนี้ มีผีเจ้าที่เจ้าทางคอยปกปักคุ้มครองดูแลอาณาบริเวณอยู่ ผีเจ้าที่ฯ เห็นและรับรู้เหตุการณ์ทุกอย่างเป็นอย่างดี จึงได้จำแลงแปลงกายเป็นผู้เฒ่าสุนัขเข้าไปเตือนสติเจ้ากวาง
"เจ้ากวางเอ้ย หยุดเถอะ การนินทาว่าร้ายผู้อื่นเสีย ๆ หาย ๆ มันไม่ดีหรอกนะ และตอนนี้สัตว์ทุกตัวในป่า ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครอยากจะคบหาสมาคมกับเจ้าอีกต่อไป เอางี้มั้ย เวลาจะพบเจอใครหากอยากพูดคุยกับเขา ลองเปลี่ยนเป็นชวนคุยเรื่องดี ๆ เรื่องสนุก ๆ แทนที่จะเป็นการนินทาว่าร้ายกันจะดีกว่าไหม เชื่อข้าเถอะนะ"
แต่เจ้ากวางหาได้ฟังคำตักเตือนจากผู้เฒ่าสุนัขไม่ มันเดินหน้าตาเฉยจากไปอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร ทันใดนั้นผู้เฒ่าสุนัขก็กลับร่างกลายเป็นผีเจ้าที่เจ้าทางเช่นเดิม และได้ร่ายมนต์เสกคาถา สาปให้หลอดเสียงของเจ้ากวางหายไป ทำให้มันไม่สามารถพูด ไม่สามารถเปร่งเสียงใด ๆ ออกมาจากปากได้อีก
วันแล้ววันเล่า เจ้ากวางตัวนี้ได้ใช้ชีวิตที่ไร้เสียงจากปากและลำคอของมันอย่างยากลำบาก มันไม่สามารถนินทาใครได้อีก และมันก็ไม่สามารถสื่อสารกับใครได้เช่นกัน ในใจมันจึงรู้สึกสำนักผิดแล้ว มันได้เดินไปโค้งคำนับขอโทษสัตว์ทุกตัวที่มันเคยนินทาว่าร้ายใส่ มันพยายามทำความดีชดเชยกับความผิดครั้งใหญ่ของมัน
และในไม่ช้าผีเจ้าที่เจ้าทางได้ปรากฏตัวต่อหน้ามันอีกครั้ง และได้ถอนคำสาปออกให้ ทำให้เจ้ากวางกลับมาพูดและสื่อสารได้อีกครั้ง แต่คราวนี้มันได้เริ่มต้นใช้ชีวิตใหม่ พูดในสิ่งดี ๆ ชื่นชมผู้อื่นแทนที่จะนินทาว่าร้าย
นิทานจบแล้วครับ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คำพูดของคนเราทรงพลังยิ่งนักครับ การนินทาว่าร้ายจะนำมาซึ่งผลลัพธ์อันเลวร้ายแก่ตัวเองได้ แต่ตรงกันข้าม หากพูดจาดีชื่นชมด้วยความจริงใจเมื่อเห็นใครได้ดี ก็จะนำมาซึ่งผลลัพธ์พลังบวก ดึงดูดสิ่งดี ๆ เข้ามาหาตัวเราเองได้เช่นกันครับ (ดูแบบเป็นคลิปข้างล่างครับ)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น