ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

นิทานเรื่อง - โนราโรงครู [ท่านางข้าม]

 ด้วยศรัทธาอันแรงกล้า จากครูหมอโนราอันเลื่องชื่อ สู่โนราโรงครูที่ผู้คนต่างเคารพบูชา เป็นนิทานเรื่องราวเล่าขานต่อ ๆ กันมา


(หมายเหตุ เรื่องราวต่อไปนี้ ทางผู้เขียนแต่งขึ้นเพื่อความบันเทิง และมุ่งเน้นเพื่อนำเสนอข้อคิดสอนใจในตอนท้ายเท่านั้น มิได้อ้างอิงจากประวัติศาสตร์แต่อย่างใด)

กาลครั้งหนึ่ง ณ หมู่บ้าน “ท่านางข้าม” ซึ่งมีความเจริญทางวัฒนธรรมมโนราห์ ครูสอนการขับร้อง การดนตรี และการร่ายรำ ผู้คนต่างเรียกชื่อว่า “ครูโนรา” นอกจากจะมีความสามารถทางด้านการดนตรีแล้ว ครูโนรายังมีความรู้ทางการแพทย์สมุนไพร และวิชาอาคมต่าง ๆ ว่ากันว่าครูโนราท่านนี้สามารถรักษาผู้ป่วยได้หายขาดหลายราย ไม่ว่าจะเป็นไข้ป่า หรือแม้กระทั่งผู้ที่ถูกคุณไสยมนต์ดำต่าง ๆ ครูโนราก็สามารถรักษาได้ทั้งหมด จนชาวบ้านได้ขนานนามให้กับท่านว่า “ครูหมอโนรา”

กาลเวลาผ่านไป เมื่อหมดยุคครูหมอโนรา วิชาความรู้ต่าง ๆ ก็เริ่มเลือนลางหายไป เหลือไว้แค่ศาลโรงเล็ก ๆ ที่ชาวบ้านทำไว้ให้คนรุ่นหลังระลึกถึงคุณงามความดีของท่าน ซึ่งถูกเรียกว่า “โนราโรงครู”

ทว่า เมื่อเวลาล่วงเลยมาอีกหลายชั่วอายุคน ศาลโนราโรงครูก็ถูกทิ้งร้างไว้กลางป่า ทุกอย่างเริ่มผุพัง ผู้คนต่างเริ่มลืมเลือน

“อ้อม” เด็กสาวรุ่นใหม่แห่งหมู่บ้านท่านางข้าม เธอเป็นผู้ใฝ่รู้ และฝึกฝนมโนราห์ จนมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่ว ครั้งหนึ่งเธอได้เดินทางเข้าไปในป่าของหมู่บ้าน โดยไม่เคยรู้มาก่อนเธอได้พบเจอกับศาลโนราโรงครูสภาพเก่าและผุพัง ด้านข้างศาลได้มีบันทึกเรื่องราวของโนราโรงครูเอาไว้ ด้วยสายลมพัดโชยเย็นสบาย อ้อมจึงเผลอหลับไป เธอได้ฝันเห็นวิญญาณของโนราโรงครู

"เด็กน้อยเอย เราจะให้พรเจ้า 1 ข้อ แต่พึงจำไว้ พรจะสำเร็จได้ต้องประกอบด้วยความศรัทธาอันแรงกล้า และการลงมือทำในสิ่งที่เธออธิฐานด้วย" เสียงพูดที่ล่องลอยมาตามลม ดูคล้าย ๆ ชายชราในชุดมโนราห์

อ้อมได้อธิฐานให้ฝนตก เพื่อบรรเทาทุกข์ให้กับหมู่บ้านของเธอ เนื่องจากได้เกิดปัญหาภัยแล้งมานาน

เมื่อสาวน้อยตื่นขึ้น เธอรีบกลับไปเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ให้คนในหมู่บ้านฟัง ทุกคนต่างมีความหวัง ต่างรอคอยอย่างใจจดใจจ่อให้ความปรารถนาของอ้อมเป็นจริง วันเวลากลายเป็นสัปดาห์ ดวงอาทิตย์ที่แผดจ้ายังคงปกคลุมท้องฟ้า ความสงสัยก็เริ่มเกิดขึ้นในหัวใจของชาวบ้าน หรือว่าความปรารถนาของอ้อมนั้นไร้ประโยชน์ และความศรัทธาของผู้คนเริ่มสั่นคลอน

แต่ อ้อมยังคงยึดมั่นในความเชื่อ เธอยังคงสวดภาวนาทุกวัน และเธอรู้ว่าศรัทธาไม่ใช่แค่คาดหวังปาฏิหาริย์เท่านั้นแต่ต้องมีความพากเพียรและการลงมือทำ

ช่วงเย็นของอีกวัน เมฆดำมืดรวมตัวกัน ฟ้าร้องดังก้องไปทั่ว เม็ดฝนได้โปรยปรายลงมาอย่างต่อเนื่อง ชาวบ้านต่างชื่นชมยินดี เมื่อท้องฟ้าเปิดออก ทำให้แผ่นดินชุ่มไปด้วยน้ำฝน แม่น้ำเริ่มไหลอีกครั้ง ความชุ่มฉ่ำกลับคืนสู่หมู่บ้าน

ไม่นานนัก ชาวบ้านได้ช่วยกันปรับปรุงศาลโนราโรงครูให้เป็นที่เคารพบูชาของผู้คน และจัดประเพณีรำลึกถึงครูหมอโนราขึ้นทุกปี เพื่อเป็นการระลึกถึงครูทางมโนราห์คนแรก

นิทานจบแล้วครับ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อเรามีความศรัทธาอันแรงกล้า จากนั้นลงมือทำในสิ่งดี ๆ เท่าที่ทำได้ และความสำเร็จก็จะถูกดึงดูดเข้ามาในไม่ช้าครับ (มีคลิป)



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมประจำเดือน

ที่มางานประเพณีชักพระ (ลากพระ) เดือน ๑๑ | ตัวอย่างงานจาก อบต.ท่าข้าม หาดใหญ่ [ท่านางข้าม]

 หากพูดถึงประเพณีชักพระ หรือลากพระ ซึ่งเป็นพระเพณีที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานของทางภาคใต้ของประเทศไทย (จะพบประเพณีนี้เป็นส่วนใหญ่)

ตำนานผี คุณยายสปีด || ท่านางข้าม

 เรื่องเล่าสุดสยองที่ถูกสืบต่อกันมา จากโศกนาฏรรมสู่เรื่องราวสุดสยองน่ากลัวของเมืองหาดใหญ่ (จ.สงขลา) ตำนานผี คุณยายสปีด (มีคลิป)

นิทานเรื่อง ทำบุญแต่ได้บาป [ท่านางข้าม]

 กาลครั้งหนึ่ง ในหมู่บ้านเล็ก ๆ มีวัดแห่งหนึ่งที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งหมู่บ้าน นายคงมั่นเป็นคนที่ชอบเข้าวัดทำบุญ เขามักจะนำของต่าง ๆ มาถวายพระ นายคงมั่นสามารถท่องจำบทสวดมนต์ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ และเป็นคนที่เคร่งต่อพิธีกรรมต่าง ๆ ในการทำบุญอย่างมาก