ไม่น่าเชื่อ ว่าสิ่งธรรมดา ๆ บางอย่างที่เราทำกันได้ในการใช้ชีวิตปกติประจำวัน แต่ตอนหลับฝันมักจะทำกันไม่ได้ หรือไม่เคยฝันถึงเรื่องแบบนี้เลย
ต่อไปนี้เป็นตัวอย่าง 7 สิ่งธรรมดา (จริง ๆ อาจมีเยอะมากกว่านี้ครับ แต่ในที่นี้ขอยกตัวอย่าง สิ่งรอบ ๆ ตัวที่เจอบ่อยมาก แต่อาจนึกไม่ถึง) น่าทึ่งมาก ว่าทำไมไม่เกิดขึ้นในความฝัน
- การฝันเห็นหน้าจอโทรศัพท์มือถือ ยิ่งรายละเอียดหน้าจอว่าตอนนี้กำลังแชท กำลังเปิดอะไรอยู่ ยิ่งเป็นไปได้ยากเลย บ่อยครั้งที่เวลาเราฝัน เราก็แค่ฝันว่าหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา แล้วก็หายไปเลย แล้วความฝันก็ดำเนินไปสู่เรื่องอื่น ๆ ต่อไป แต่น้อยมาก (หรือไม่เกิดขึ้นเลย) ว่าเรากำลังนั่งอ่านบทความบนมือถือ หรือกำลังนั่งแชทเห็นข้อความอยู่ ที่เป็นแบบนี้เพราะว่า จริง ๆ แล้วในตอนเราเล่นโทรศัพท์ สมองของเราจะล้า บ้างก็ส่งผลกับการปวดคอ ปวดลูกตา เวลานอนหลับ การฝันจะเป็นการทำให้ร่างกายได้ผ่อนคลาย สิ่งต่าง ๆ ที่เคยทำให้เราล้าตอนเราตื่นอยู่ จึงไม่ค่อยเกิดขึ้น
- ฝันว่ากำลังเขียน อ่าน หรือพูด ในช่วงของการทำงาน หรือเรียนหนังสือ หนึ่งในช่วงที่เหนื่อยล้ามาก ๆ ก็คือการที่จะต้องจดหรือเขียนอะไรบางอย่าง หรือการที่ต้องอ่านหนังสือเพื่อท่องจำเตรียมสอบ เตรียมนำเสนองาน (ยกเว้นการอ่านนิยาย อ่านเรื่องตลกเพื่อความบันเทิง) ทำให้เราเหนื่อยล้ามาก ๆ เวลาฝัน เราจึงมักไม่ค่อยจะฝันถึงการเขียนและการอ่าน หรือแม้กระทั่งการพูดเอง ในฝันบางทีเราเหนื่อยที่จะพูดออกมาเป็นคำพูด ความฝันส่วนใหญ่จึงมักจะเป็นแค่ เราเข้าไปอยู่ในเรื่องราวที่ดำเนินไปแบบมีการพูดจาน้อยมาก
- ฝันเห็นคนแปลกหน้า เพราะความฝันจะใช้จินตนาของเราแต่งแต้มทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างลงไป คนที่เรามักเจอในความฝันจึงเป็นคนที่เราสนิทคุ้นเคยกันดี หรือเป็นคนที่เราเคยเจอมาแล้วในวัยเด็กเมื่อนานมาแล้ว ในตอนฝันก็สามารถดึงความทรงจำนั้นกลับมาแสดงอีกได้ แต่การที่จะฝันว่าเจอคนแปลกหน้า เพิ่งเคยเห็นครั้งแรกนั้นเป็นไปได้ยากมาก ๆ หากฝันว่าเราเดินเข้าไปในกลุ่มคน หรือเดินผ่านคนแปลกหน้า ในฝันแบบนี้เรามักจะไม่เห็นหน้าคน ๆ คน หรือไม่เจาะจงใบหน้าใคร ๆ จะฝันแบบรวม ๆ ตอนตื่นขึ้นมาเราจะพบว่า หน้าแปลกมากที่เราจำหน้าใครไม่ได้เลย
- ฝันว่ากำลังวิ่ง หรือทำกิจกรรมทางกายภาพ ปกติแล้วเรามักไม่ฝันถึงว่ากำลังออกกำลังกาย กำลังเล่นกีฬา หรืออื่น ๆ ใด ๆ เลย โดยเฉพาะฝันว่ากำลังวิ่ง เคยมั้ยครับ บางทีฝันว่ากำลังหนีอะไรสักอย่าง แล้วก้าวขาแทบไม่ออก วิ่งไปได้ทีนะนิด ๆ เหมือนเป็นอัมพาตเลยทีเดียว ที่เป็นอย่างนี้เพราะช่วงที่เรานอน ร่างกายของเราจะผ่อนคลายความเกร็งตัว ทำให้กิจกรรมต่าง ๆ ในความฝันที่เกี่ยวกับการเกร็งตัว โดยเฉพาะการวิ่ง/เดิน (เพราะปกติในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่ของเราจะใช้การขยับตัวด้วยการเดินหรือวิ่ง) ที่ต้องเกร็งขา จึงทำไม่ได้ ส่งผลให้บางทีหากฝันว่ากำลังวิ่งกลายเป็นฝันร้ายไปเลย บางรายสะดุ้งจนตื่นเลยก็มี สังเกตดูว่าเมื่อเราตื่นใหม่ ๆ ร่างกายของเราก็ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ต้องรอสักพักให้ร่างกายกลับมาเกร็งตัวใหม่
- ฝันว่ามองดูกระจกเงา อันนี้บอกเลยว่าค่อนข้างหลอน หากเราเผลอมองดูตัวเองในกระจกเงาในฝันแล้วละก็ บางรายอาจเห็นหน้าตัวเองบิดเบี้ยว หรือเห็นผีไปเลยก็มี ที่เป็นแบบนี้ก็อาจเพราะ การมองกระจกในชีวิตประจำวันทั่วไปนั้น เป็นการที่เรามอบความไว้วางใจไปที่สิ่งอื่น ๆ (ที่นอกเหนือจากการที่เราจะใช้จินตนาการ) เรามองดูตัวเองในกระจกเพื่อตรวจเช็คบางอย่าง เช่น ใบหน้า เส้นผม การแต่งเสริมสวย เป็นต้น แต่ในความฝันนั้น เราจะใช้จินตนาการล้วน ๆ การมอบความไว้วางใจไปที่สิ่งอื่น ๆ ที่นอกเหนือจากจินตนาการจึงอาจทำให้เห็นเป็นสิ่งบางอย่างผิดปกติออกมาได้ ดั่งเช่นการมองกระจกที่มักไม่ค่อยเกิดขึ้นในความฝัน (หรือการมองหน้าจออื่น ๆ เช่น โทรศัพท์มือถือ เหมือนดังเช่นที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น)
- ฝันถึงการชิมรสอาหาร ข้อนี้เป็นพื้นฐานเลย เพราะเวลานอนหลับประสาทสัมผัสของเราจะถูกพักการทำงานไปด้วย การชิมรสอาหารจึงไม่เกิดขึ้นในจินตนาการ หากในฝันมีการกินอาหาร เราจะไม่รู้สึกเค็ม ไม่รู้สึกหวาน ขม หรือเปรี้ยวเลย หรือแม้กระทั่งในชีวิตจริงหากเราเห็นคนกินตะลิงปลิง (หรือผลไม้รสเปรี้ยวจัดอื่น ๆ) เราอาจเสียวฟันแทนเขา หรือน้ำลายสอไปเลย แต่ในความฝันอาการเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น
- ฝันถึงสัมผัสทางร่างกาย บ่อยครั้งที่เราอาจเคยเห็นในละคร ในภาพยนตร์ ว่า ลองทดสอบดูซิว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่หรือเปล่า ลองหยิกแก้มตัวเองดูหน่อย ถ้าฝันอยู่มันจะไม่รู้สึกเจ็บ อย่างที่ได้กล่าวมาในข้อที่เพิ่งผ่านมานะครับ ระบบประสาทสัมผัสของเราจะไม่ทำงานในจินตนาการหรือความฝัน ความเจ็บปวดที่เกิดจากจินตนาการ หรือแม้แต่อาการคัน จึงไม่เกิดขึ้น ทำให้หลาย ๆ คนพยายามสะกดจิตตัวเองว่า หากตอนนี้อยากรู้ว่าฝันหรือไม่ จงจำให้มั่น จงจำฝังใจว่า ลองหยิกตัวเองดู
และทั้งหมดนี้ เป็น 7 สิ่งธรรมดาที่เกิดขึ้นได้ในชีวิตประจำวัน แต่ในความฝันนั้นอาจไม่เกิดขึ้น หรือเกิดขึ้นได้ยาก เพิ่มเติมนิดนึงจากผู้เขียนนะครับ (ตามข้อ 7.) หากเราอยากทดสอบว่าตอนนี้กำลังฝันอยู่หรือไม่ ให้เราท่องไว้เสมอ จำไว้ให้มั่น แล้วลองถามตัวเองดูว่า "ก่อนหน้านี้เราทำอะไรอยู่ แล้วเรามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร" หากเราสามารถบอกได้ว่าเมื่อวานทำอะไร หรือเกิดอะไรขึ้นก่อนจะมาอยู่จุดนี้ แสดงว่าตอนนี้เราไม่ได้ฝัน แต่ถ้าเราบอกไม่ได้ แสดงว่า คุณ กำลัง ฝัน
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น