เหตุเกิดเมื่อซ้อหญิง หรือภรรยาของท่านจันเจา ("จั่นเจา") ได้เผลอพลั้งพลาดฆ่าคนตาย จึงทำให้ต้องขึ้นศาลไขฟง ("ศาลไคฟง") และถูกตัดสินประหารชีวิต
ณ เมืองไขฟง (แผลงจาก “ไคฟง”) ในเมืองนี้มีท่านเจ้าเมืองผู้ทรงความยุติธรรมเป็นผู้ดูแลอยู่ นั่นก็คือ ท่านเปาบุ้นจี้ (แผลงจาก “เปาบุ้นจิ้น”) และท่านเปานั้นมีองครักษ์ผู้เก่งกาจนามว่า “จันเจา” (แผลงมาจาก “จั่นเจา”) พร้อมด้วยทหารเอกอีก 4 คน คือ หวังเฉา หม่าฮั่น จางหลง เจ้าหู่
วันเวลาผ่านไป ใด ๆ ในโลกนี้ล้วนแล้วแต่อนิจจัง เมื่อภรรยาของจันเจา ได้เกิดพลั้งพลาดฆ่าคนตายขึ้นมา ทำให้ต้องขึ้นศาลไขฟง แน่นอนว่าในสมัยก่อน การฆ่าคนตายมีโทษถึงประหารชีวิต โดยไม่มีรอลงอาญาใด ๆ ทั้งสิ้น
จันเจา ผู้เป็นทั้งสามี และเป็นทั้งองครักษ์ของท่านเปา มิได้ร้องขอให้ละเว้นโทษแต่อย่างใด เนื่องด้วยความซื่อสัตย์ในหน้าที่ และความมีศักดิ์ศรีของทหารเอก จะมีก็เพียงแต่ทหารรุ่นน้อง หวังเฉา หม่าฮั่น จางหลง เจ้าหู่ ที่รู้สึกสงสารท่านจันเจาเป็นยิ่งนัก เพราะในแต่ละคืนที่ผ่านไปจันเจาเอาแต่ร้องไห้ ไม่เป็นอันกินอันนอน
แล้ววันเวลาก็เลื่อนมาจนถึงวันนัดประหาร จันเจาได้แต่ยืนตัวเกร็งอยู่ข้าง ๆ ท่านเปา ส่วนจางหลง และเจ้าหู่ นั้น รับไม่ได้กับการตัดสินในวันนี้ จึงทำทีว่าลาป่วย ไม่ขอเข้ามาฟังคำตัดสินในศาล จะมีก็เพียงแต่ หวังเฉา กับ หม่าฮั่น พร้อมทั้งทหารชั้นผู้น้อยคนอื่น ๆ อยู่ร่วมฟังคำตัดสิน
หลังจากที่ท่านเปาได้อ่านคำพิพากษา แล้วจึงหยิบติ้วขึ้นมาพร้อมที่จะโยนลงพื้น และทุก ๆ คนรู้ดีว่า ก่อนจะโยนติ้วลงถึงพื้นนั้น ท่านเปาจะตะโกนเสียงดังว่า “ประหาร” นั่นหมายถึง ชีวิตของซ้อหญิงคงต้องจบลงแน่ ๆ
ในทันใดนั้น ก่อนท่านเปาจะโยนติ้วออกไป จึงได้ตะโกนเพื่อเตรียมความพร้อมของทหารเจ้าหน้าที่ออกมาเสียงดังก่อนว่า “หวังเฉา หม่าฮั่น” หวังเฉา และหม่าฮั่น ที่กำลังใจลอยอยู่ เมื่อได้ยินเสียงตะโกนเรียกชื่อก็เกิดตกใจสะดุ้งขึ้นมากะทันหัน จึงรีบมุดลงใต้โต๊ะท่านเปา และด้วยความบ้าจี้จึงได้เผลอเอามือบีบไข่ท่านเปากันคนละข้างจนสุดแรงเกิด ทำให้ท่านเปาหน้าเขียว เหงื่อแตกพลั่ก
ท่านเปาร้องออกมาทันใด “โอ๊ย ๆ ปล่อย ๆ เฮ้ย ๆ รีบปล่อยเลยเร็ว ๆ”
เมื่อได้ยินดังนั้น จันเจา จึงรีบเข้าไปช่วยเหลือปล่อยตัวภรรยา และรีบพาออกไปจากศาลไขฟง อย่างรวดเร็ว จึงทำให้ซ้อหญิงรอดชีวิตอย่างหวุดหวิด
😆😆“สรุปรอดตาย เพราะความบ้าจี้ของคนนี่เองครับทุกคนครับ อิอิอิ”😆😆
(คลิป)
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น