ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

มีตังแต่ไม่ใช้ กลับยอมทนลำบาก | นิทานเรื่อง - ชายขี้เหนียวกับทองของเขา

 บางคนกว่าจะหาเงินมาได้สักบาทนั้นยากแสนลำบาก แต่สำหรับบางคนแล้วเงินทองหามาได้ง่ายแสนง่าย บางคนมีเงินมากมายแต่ไม่ยอมเอาออกมาใช้ แถมไม่เคยทำบุญ ไม่เคยช่วยเหลือคนอื่น


เรื่องนี้จะขอยกตัวอย่างจากนิทานอีสป ที่นำมาเล่าในสไตล์ Blog อาจารย์ X ครับ เนื้อเรื่องดังนี้

กาลครั้งหนึ่งชายเศรษฐีคนหนึ่ง เขามีทองมากมายที่หามาได้ ซึ่งในสมัยนั้นระบบการรับฝากเงิน หรือธนาคารยังไม่เกิดขึ้น ใครก็ตามที่มีเงิน มีทอง ก็ต้องหาวิธีเก็บด้วยตัวเอง เช่นเดียวกันกับชายเศรษฐีคนนี้ครับ เขาใช้วิธีขุดหลุมฝังทองของเขา โดยเขาได้นำทองใส่ถุงแล้วพาไปฝังไว้ที่ใต้โคนต้นไม้ของสวนข้างบ้านของเขาเอง ซึ่งทองที่เขาฝังไว้นั้น เขาไม่ได้นำเอามาใช้ เขาเพียงแค่ขุดออกมาชื่นชมอาทิตย์ละครั้ง แล้วก็ฝังกลับไปที่เดิมเท่านั้น

เมื่อใดก็ตามที่เขาหามาได้เพิ่ม เขาก็จะทำเช่นเดิม คือ จะนำไปฝังไว้ที่สวนข้างบ้านของเขาสัปดาห์ละครั้ง (เรียกได้ว่าขุดขึ้นมาชื่นชม แล้วก็ใส่เพิ่มเข้าไป)

เวลาใดที่เขาต้องการจะใช้ เขาจะพยายามทุกหนทางเพื่อที่จะไม่ต้องนำทรัพย์สินของตัวเองออกมา แต่เขายอมแบกหน้าไปขอของคนอื่น แถมชายคนนี้ไม่ยอมทำบุญ ไม่ยอมช่วยเหลือคนอื่นเลย (ชอบขอของคนอื่น แต่ไม่ยอมให้ทาน) เขาเป็นคนขี้เหนียวมาก ๆ

วันหนึ่ง ในขณะที่ชายเศรษฐีขี้เหนียวได้ขุดเอาทองมาชื่นชม และฝังกลับไปแล้วนั้น ปรากฏว่ามีเจ้าหัวขโมย คนหนึ่งแอบซุ่มอยู่หลังพุ่มไม้ เจ้าหัวขโมยหรือโจรคนนี้ได้เห็นทองในถุงที่ชายเศรษฐีฝังไว้ในสวน พอได้จังหวะตอนที่ชายเศรษฐีเดินกลับบ้านไปแล้ว โจรคนนี้ก็ได้ทำการขุดเอาทองของเศรษฐีไปทั้งหมด

ในสัปดาห์ต่อมาเมื่อชายเศรษฐีขุดหลุมเพื่อจะเอาทองกลับมาชื่นชมอีกครั้ง จึงได้พบว่าทองของตนนั้นได้หายไปหมด มันถูกใครก็ไม่รู้ขโมยไปหมดแล้ว เขาจึงทำได้เพียงร้องห่มร้องไห้ สักพักชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงได้ยินเข้า ด้วยความเป็นห่วงจึงเดินมาดู แล้วถามว่า "ท่านเศรษฐี เกิดอะไรขึ้นรึท่าน"

ชายเศรษฐีจึงตอบว่า "ทองของข้าน่ะสิ ทองที่ข้าฝังเอาไว้มากมาย ได้ถูกขโมยไปหมดสิ้นแล้ว"

ชาวบ้านจึงถามต่อไปว่า "แล้วท่านเคยนำทองเหล่านี้มาใช้บ้างหรือไม่ล่ะ"

ชายเศรษฐีตอบ "ก็เปล่านะ ข้าแค่ขุดมันขึ้นมาชื่นชมแล้วก็ฝังกลบกลับไปที่เดิมเท่านั้นแหละ"

ชาวบ้านจึงพยายามปลอบใจชายเศรษฐีว่า "งั้น ท่านอย่าคิดมากเลย ยังไงมันก็หายไปแล้ว แต่ถึงกระนั้นต่อให้มีมัน ท่านก็ไม่ได้ใช้มันอยู่ดีนี่นา งั้นก็คงไม่ต่างอะไรกับการไม่มีมันหรอกนะ อย่าคิดมากอีกเลย"


นิทานจบครับ

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

  1. เมื่อมีทรัพย์สินแล้ว แต่เราไม่ยอมเอาออกมาใช้แม้ยามลำบาก ก็เท่ากับว่าไม่ต่างจากการไม่มี
  2. การเก็บเงิน ควรหาที่เก็บไว้หลายที่ ไม่ควรเก็บไว้เพียงที่เดียว เช่นเดียวกับการฝากเงินไว้ในธนาคารในสมัยนี้ ก็ควรฝากไว้หลาย ๆ ที่เผื่อเอาไว้ก่อนครับ



ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมประจำเดือน

ที่มางานประเพณีชักพระ (ลากพระ) เดือน ๑๑ | ตัวอย่างงานจาก อบต.ท่าข้าม หาดใหญ่ [ท่านางข้าม]

 หากพูดถึงประเพณีชักพระ หรือลากพระ ซึ่งเป็นพระเพณีที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานของทางภาคใต้ของประเทศไทย (จะพบประเพณีนี้เป็นส่วนใหญ่)

ตำนานผี คุณยายสปีด || ท่านางข้าม

 เรื่องเล่าสุดสยองที่ถูกสืบต่อกันมา จากโศกนาฏรรมสู่เรื่องราวสุดสยองน่ากลัวของเมืองหาดใหญ่ (จ.สงขลา) ตำนานผี คุณยายสปีด (มีคลิป)

นิทานเรื่อง ทำบุญแต่ได้บาป [ท่านางข้าม]

 กาลครั้งหนึ่ง ในหมู่บ้านเล็ก ๆ มีวัดแห่งหนึ่งที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งหมู่บ้าน นายคงมั่นเป็นคนที่ชอบเข้าวัดทำบุญ เขามักจะนำของต่าง ๆ มาถวายพระ นายคงมั่นสามารถท่องจำบทสวดมนต์ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ และเป็นคนที่เคร่งต่อพิธีกรรมต่าง ๆ ในการทำบุญอย่างมาก