คุณเคยมั้ย หรือมันต้องเคยมีอารมณ์ประมาณนี้บ้างแหละ เราไม่อยากเป็นแล้วในสิ่งที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ทำไมเราไม่เป็นเหมือนคนโน้น ทำไมเราไม่เป็นเหมือนคนนี้บ้างล่ะ
หากคุณเคยคิดอยากเป็นเหมือนคนอื่นบ้าง ไม่อยากเป็นแล้วแบบที่เป็นอยู่ บอกเลยว่าไม่แปลกครับ หลาย ๆ คนก็คงเคยมีความคิดแบบนี้ แต่อยากจะบอกว่า ทาง Blog มีนิทานมาเล่าเพื่อยกเป็นตัวอย่างให้ฟังครับ
แต่เดี๋ยวก่อน อิอิ มาอ่านเรื่องขำขันกันก่อนไปถึงนิทานเรื่องนั้น
เรื่องขำขัน นิทานก่อนนอนของคุณภรรยา
ในห้องนอน สามีค่อย ๆ ย่องเข้าไปหาภรรยา พร้อมกับพูดรบเร้าว่า
สามี: "นะ นะ นะ ที่รัก บรรยากาศแบบนี้ ผมขอนะคืนนี้"
ภรรยา: "วันนี้เหนื่อยมาก ๆ เลย ไม่เอาไม่ได้เหรอคืนนี้ วันนี้ฉันมีสอนนักเรียนมาทั้งวัน ยืนทั้งวันเลย"
สามี: "โถ่! คุณก็รู้ว่าผมจะนอนไม่ค่อยหลับถ้าไม่ได้แบบทุก ๆ คืนอ่ะ"
ภรรยา: (ถอนหายใจ) "เห้ย! เอาก็เอา งั้นขยับมาใกล้ ๆ นอนเฉย ๆ นะที่รัก ฉันจะเริ่มล่ะ กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้ากบน้อยตัวนึงอาศัยอยู่..."
ภรรยาเล่านิทานไม่ทันจบ สามีก็ล้มตัวลงแล้วกรน
สามี: "คร่อก ฟี่... "
ภรรยา: "นั่นไง ตามเคย เล่าไม่ทันจบก็หลับก่อนทุกคืน คริ คริ"
โอเคครับท่านผู้อ่าน ฮ่า ๆ ขำมั้ยไม่รู้ เข้าเรื่องดีกว่า เราไปสู่นิทานกันครับ
นิทานเรื่อง กบไม่อยากเป็นกบ
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเจ้ากบน้อยตัวนึง อาศัยอยู่ใกล้วัดแถบชนบทแห่งหนึ่ง และวันหนึ่งพระสงฆ์กำลังเดินบิณฑบาตอยู่ ครั้นเมื่อเจ้ากบน้อยมองเห็นชาวบ้าน เอาอาหารมาถวายพระสงฆ์มากมาย ก็รำพึงรำพันออกไปว่า
กบ: "ว้าว! ดีจังเลย เกิดเป็นพระสงฆ์นี่มีคนเอาอาหารมาให้เยอะแยะเลย เราอยากเกิดเป็นพระบ้างจัง พระเจ้าครับ ลูกขอวิงวอน ขอให้ลูกได้เป็นพระด้วยเถิด"
เวลาผ่านไป พระสงฆ์เดินกลับถึงวัด และเมื่อฉันอาหารเช้าเสร็จ เด็กวัดก็จะมานำเอาของต่าง ๆ มากินต่อ เมื่อเจ้ากบน้อยเห็นเข้าจึงรำพึงรำพันออกไปว่า
กบ: "ว้าว! ดีจังเลย พระเจ้าครับ ลูกไม่อยากเป็นพระแล้วล่ะ เป็นพระไม่สามารถวิ่งกระโดดโลดเต้นแบบเด็กวัดได้ แต่เด็กวัดนี่ดีจริง ๆ มีที่หลับที่นอน มีกินฟรี ๆ ไม่ต้องซื้อหา แถมจะไปเที่ยวไหนก็ได้ พระเจ้าครับ ลูกขอวิงวอน ขอให้ลูกได้เป็นเด็กวัดด้วยเถิด"
เวลาผ่านไปสักพัก เมื่อเด็กวัดกินอาหารและเหลือ ก็จะเอามาให้หมาในวัดกินต่อ เมื่อเจ้ากบน้อยเห็นเข้าจึงรำพึงรำพันต่อไปว่า
กบ: "ว้าว! ดีจังเลย พระเจ้าครับ ลูกไม่อยากเป็นเด็กวัดแล้วล่ะ อยากเป็นหมาวัดมากกว่า เพราะแค่อยู่เฉย ๆ ก็มีข้าวกิน มีเด็กวัดคอยจัดการให้หมด พระเจ้าครับ ลูกขอวิงวอน ขอให้ลูกได้เป็นหมาวัดด้วยเถิด"
ในขณะเดียวกัน ที่บรรดาสุนัขกำลังกินข้าว ที่เด็กวัดได้จัดไว้ให้ ก็มีแมลงวันจำนวนหนึ่งบินมาตอมข้าว เจ้าหมาวัดก็ทำได้แค่สะบัดนิด ๆ หน่อย ๆ บ้างก็ไม่สนใจ เพราะยังไงก็ทำอะไรแมลงวันที่บินไปมาไม่ได้อยู่แล้ว เมื่อเจ้ากบน้อยเห็นเข้าจึงรำพึงรำพันออกไปว่า
กบ: "ว้าว! ดีจังเลย พระเจ้าครับ ลูกไม่อยากเป็นหมาวัดแล้วล่ะ แต่อยากเป็นแมลงวันมากกว่า สามารถบินไปไหนมาไหนได้ แถมแย่งอาหารของหมาวัดได้อย่างง่าย ๆ เลย พระเจ้าครับ ลูกขอวิงวอน ขอให้ลูกได้เป็นแมลงวันด้วยเถิด"
พูดยังไม่ทันจบ ก็มีแมลงวันตัวนึง เผลอบินมาใกล้ ๆ เจ้ากบน้อย ทันใดนั้นด้วยสัญชาตญาณ เจ้ากบจึงกระโดดพร้อมแลบลิ้นงับกินแมลงวันตัวนั้นในบัดดล
กบ: "อืม! อิ่มอร่อย ลาบปากเลย เอ่อ! พระเจ้าครับ ลูกว่า ลูกขอเป็นกบอย่างเดิมดีกว่า แบบนี้ล่ะดีแล้ว"
นิทานจบแล้วคร้าบ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า ทุก ๆ คนล้วนเกิดมามีข้อดีของตัวเอง แต่บางครั้งเราอาจจะมองว่า ทำไมคนโน้นดีอย่างโน้น ทำไมคนนี้ดีอย่างนี้ ก็อาจเพราะเรายังไม่ค้นพบความสามารถหรือศักยภาพในตัวเอง ที่เป็นพรสวรรค์ติดตัวมาแต่กำเนิด หรือเป็นความถนัดที่เรามี ที่เราชอบและทำมันได้ดี ซึ่งทุก ๆ คนล้วนมีสิ่งดี ๆ อยู่ตัวมาอยู่แล้วครับ เพียงแค่ค้นหามันให้เจอ สวัสดีครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น