ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ดอกซ่อนกลิ่นในวันลอยกระทง - เรื่องสั้น แนวนิทานซึ้ง ๆ ของเด็กสาววัยแรกแย้ม แสงแข

 เธอถึงกับต้องตีพ่อตัวเอง ด้วยของที่ต่ำมาก ๆ เรื่องราวความรักของเด็กสาววัยแรกรุ่น ที่ต้องเลือกระหว่างพ่อ กับชายหนุ่มรูปงาม


ณ บ้านแถบชนบทแห่งหนึ่ง แวดล้อมด้วยทิวเขา และต้นไม้นา ๆ แสงแข เด็กสาวผู้เกิดมาพร้อมกับผิวกายที่ขาวนวลผ่องใส และเปร่งประกายประดุจดั่งแสงจันทร์ในวันเพ็ญ เธอเป็นเด็กกำพร้าแม่มาตั้งแต่เด็ก เธออาศัยอยู่กัน 2 คนพ่อลูก แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกว่าเป็นเด็กกำพร้าเลยแม้แต่น้อย เพราะพ่อของเธอได้เลี้ยงดูแสงแขเป็นอย่างดี พ่อทำหน้าที่มิได้ขาดตกบกพร่อง


วันหนึ่ง ในขณะที่พ่อได้พาเด็กสาวตัวน้อยเดินเล่นบริเวณป่าข้าง ๆ บ้าน แสงแขก็ได้เจอกับดอกไม้ชนิดหนึ่งเข้า

แสงแข: "พ่อคะ นี่ดอกอะไร สวยจังเลย แต่ไม่เห็นมันจะมีกลิ่นเลย"
พ่อ: "อ๋อ! นั่นคือดอกซ่อนกลิ่นจ่ะลูก ช่วงกลางวันมันจะมีกลิ่นแค่เล็กน้อย หรือบางทีเราอาจไม่ได้กลิ่นมันเลย แต่พอตกกลางคืน มันจะส่งกลิ่นหอมมาก ๆ อืม! มันเป็นดอกไม้ที่แปลกดีใช่มั้ยล่ะ"

พ่อกับลูกสาวคุยกันอย่างมีความสุข ลูกชี้ให้พ่อดูโน่น ดูนั่น พ่อก็คอยตอบคำถามลูก คอยอธิบายถึงสิ่งต่าง ๆ รอบ ๆ ตัว

วันแล้ววันเล่าผ่านไป จากเด็กสาวตัวเล็ก กลายเป็นสาววัยรุ่นย่างเข้า 15 ปี แสงแขเริ่มโตเป็นสาวตัวน้อย ๆ แล้ว ผิวพรรณเธอสวยประดุจดั่งแสงจันทร์วันเพ็ญ
เด็กหนุ่มวัยรุ่นทั้งใกล้บ้าน และทั้งจากโรงเรียนต่างพากันมาจีบเธอ แต่ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว ส่วนใหญ่ก็จะถูกพ่อกีดกัน และคอยปกป้องดูแลลูกอยู่เสมอทุกครั้งไป



ทว่าสิ่งเหล่านี้ที่พ่อทำ กลับเป็นจุดเริ่มต้นของความไม่เข้าใจกันในครอบครัว

พ่อ: "เชื่อพ่อนะลูก วัยรุ่น วัยเรียน ตั้งใจเรียนไว้ก่อนดีกว่า หากจะคบใครพ่อไม่ว่า แต่ขอให้คบเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันไปก่อน ให้พากันเรียนหนังสือ อย่าคบเป็นแฟน หรือผูกมัดกัน พอลูกเข้ามหาวิทยาลัย หรือเข้าสู่วัยทำงาน ค่อยคิดถึงเรื่องคบเป็นแฟนจะดีกว่า เพราะช่วงนั้นลูกจะเจอคนที่เพียบพร้อม และมีวุฒิภาวะต่าง ๆ มากกว่า"

ลูกรู้สึกหงุดหงิด ทำท่าทางไม่พอใจ ก่อนจะพูดตอบกลับไปว่า: "อะไรอ่ะพ่อ ทำไมถึงจ้องจะจับผิดหนูอยู่แบบนี้เรื่อยเลย พ่อไม่คิดให้หนูเป็นอิสระบ้างเลยเหรอ วัน ๆ จ้องจะมาด่าหนู เฮ้อ! อารมณ์เสียจริง ๆ เข้าห้องดีกว่า"

พูดจบ แสงแขก็รีบเข้าห้องและปิดประตูทันที

เวลาผ่านไปอีกเดือน วันนี้เป็นวันเกิดครบรอบ 15 ปีของเธอ และด้วยฐานะทางบ้านไม่ค่อยดีนัก แต่ด้วยความรักลูกสาวอันมากล้น พ่อได้พยายามเก็บเงินเพื่อซื้อของขวัญให้เธอ พ่อได้เอาเงินทั้งหมดที่มี ณ ตอนนี้ไปซื้อรองเท้าใหม่ให้เธอ ซึ่งเป็นรองเท้าส้นสูงสีแดงสวย เพื่อมอบให้แสงแข

พ่อ: "Happy birth day จ่ะลูกรัก นี่เป็นของขวัญที่พ่อตั้งใจเก็บเงินซื้อให้ลูกนะ ลองดูซิชอบมั้ย อิอิ ในวันเกิดปีนี้ พ่อขออวยพรให้ลูก ประสบความสำเร็จทั้งในด้านการเรียน ด้านการใช้ชีวิต มีสิ่งดี ๆ เข้ามา และขอให้เป็นเด็กดีนะลูกนะ สิ่งใดผิดพลาดที่ผ่านมา พ่อให้อภัยลูกหมด พ่อรักลูกมากนะ"

แสงแข: "ขอบคุณค่ะพ่อ อิอิ หนูก็รักพ่อนะ อืม! หนูก็ขอโทษพ่อเช่นกันนะ สิ่งใด ๆ ที่เคยเถียง ที่เคยทำไม่ดีกับพ่อไว้ ก็... ก็พ่อเล่นไม่ให้อิสระกับหนูเลยนี่นา อ้อ! พ่อ! พ่อเอาของขวัญวางไว้ตรงนั้นก่อนนะ พอดีคืนนี้หนูมีนัดกินเลี้ยงปาร์ตี้งานวันเกิดกับเพื่อนน่ะ เพื่อนจัดงานสนุก ๆ ให้หนูด้วยล่ะ เดี๋ยวสักพักเพื่อนจะมารับ แล้วคืนนี้พ่อไม่ต้องรอหนูกินข้าวนะ พ่อกินไปก่อนเลย เดี๋ยวหนูจะกินในงาน"

สักพักลูกสาวก็ออกไปกับเพื่อนข้างนอก ส่วนพ่อได้แต่ส่งสายตาห่วงใยไปกับลูกสาวจนสุดสายตา ในใจของพ่อนั้น ต่อให้ลูกสาวคนนี้โตขึ้นสักแค่ไหน แต่ก็ยังคงเป็นเด็กตัวเล็ก ๆ ในสายตาพ่อเสมอ
สักพัก พ่อจึงเดินกลับมาในบ้าน พร้อมกับค่อย ๆ นั่งลงเอนหลังพิงกำแพง หยิบรูปถ่ายภรรยาออกมาดู (แม่ของแสงแข) และรำพึงรำพันออกไปว่า

พ่อ: "ที่รัก ถ้าเธอยังอยู่ เธอจะเห็นว่าลูกเราโตขึ้นแค่ไหน เฮ้อ! พี่น่ะ รักลูกของเรามากนะ แต่รู้สึกเหมือนพี่จะแสดงออกความรักที่มีต่อลูกไม่ค่อยถูก หรือบางทีพี่อาจจะจ้ำจี้จ้ำไชกับลูกมากเกินไป จนลืมให้อิสระกับลูกจริง ๆ"

ณ ที่จัดปาร์ตี้ แสงแขกับเพื่อน ๆ เปิดเพลง เลี้ยงฉลองกันอย่างสนุกสนาน และวันนี้แสงแขก็ได้มีโอกาสรู้จักกับหนุ่มสุดหล่อ ซึ่งเป็นญาติของเพื่อนของเธอนั่นเอง



หนุ่มหล่อ: "สวัสดีครับน้องคนสวย พี่ชื่อว่า เมฆ เป็นญาติของแป้ง พี่ได้ข่าวว่าเพื่อนของแป้งจัดงานวันเกิดเลี้ยงฉลอง พี่ก็เลยเอาของขวัญมาให้ครับ"

แสงแขยิ้มอย่างเขิน ๆ พร้อมกับคิดในใจว่า โอ้โฮ! อีแป้ง แกมีญาติหล่อขนาดนี้ ทำไมถึงเพิ่งเอามาแนะนำวะ
แสงแขค่อย ๆ เดินเข้าไปรับของขวัญจากหนุ่มเมฆ พร้อมกับพูดขอบคุณ

แสงแข: "เอ่อ! สวัสดีค่ะพี่ น้องชื่อ แสงแข เป็นเพื่อนกับแป้งค่ะ ดีใจจังมีคนให้ของขวัญด้วย เนี่ยวันนี้น้องยังไม่ได้ของขวัญเลยนะ พี่เป็นคนแรกเลย ขอบคุณนะคะ"

แสงแขและเมฆเริ่มทำความรู้จักกัน เริ่มแลก LINE แลกเบอร์โทรกัน

เวลาผ่านไปเกือบจะตี 2 อีกฝากหนึ่ง ณ บ้านของแสงแข พ่อก็ยังคงนั่งรอลูกสาวกลับบ้านอยู่ที่บริเวณหน้าบ้าน พ่อไม่กล้าที่จะโทรหาลูกสาว เพราะกลัวว่าจะทำให้เธอรำคาญ อีกอย่างนึง วันนี้เป็นวันเกิดของเธอด้วยนี่นา
สักพักไม่นาน เมฆก็ขับมอเตอร์ไซค์พาแสงแขมาส่งที่ถนนหน้าบ้าน หลังร่ำลากันเสร็จเมฆก็รีบขับรถกลับทันที จากนั้นแสงแขจึงเดินไปหน้าบ้าน เห็นพ่อตัวเองนั่งรออยู่ ในใจก็คิดว่าพ่อคงเห็นแล้วล่ะว่ามากับผู้ชาย คงต้องด่าว่าอีกแน่นอน จึงรีบชิงพูดออกไปก่อนว่า

แสงแข: "อ้าว! พ่อ! แล้วนี่ทำไมยังไม่นอน อย่าบอกนะว่าจะมารอด่าหนูอีกน่ะ"
พ่อ: "อ๋อ! คือ... พ่อนอนไม่หลับน่ะ แล้วนี่ลูกกินอะไรมาหรือยัง พ่อทำข้าวต้มรอไว้แล้วนะ เผื่อลูกหิว แล้วนั่นใครมาส่งลูก ทำไมไม่พามาแนะนำให้พ่อรู้จักบ้างล่ะ ลูกจ๋า แล้ว..."
พูดยังไม่ทันจบ แสงแขจึงรีบชิงตัดบทก่อน
แสงแข: "พ่อคะ หนูง่วงแล้วล่ะ ค่อยคุยกันนะ หนูเข้าห้องก่อนล่ะ แล้วพ่อก็เข้านอนได้แล้ว นี่มันดึกมากแล้วนะคะพ่อ"
ว่าแล้วแสงแขก็เดินสวนพ่อกลับเข้าบ้านไป ส่วนพ่อก็ยังคงนั่งลงหน้าบ้านเหมือนเดิม คืนนี้พ่อนอนไม่หลับ น้ำตาพ่อค่อย ๆ ไหล พร้อมกับหยิบรูปถ่ายของภรรยาออกมาดู พร้อมรำพึงรำพันเบา ๆ


พ่อ: "ที่รัก ลูกของเราโตเป็นสาววัยรุ่นแล้วล่ะ อารมณ์แปรปรวนง่ายตามนิสัยวัยรุ่น คนเป็นพ่อจะเข้าไปยุ่งเรื่องส่วนตัวมากก็กลัวลูกจะหงุดหงิดรำคาญ อีกทั้งผู้ชายคนนั้นที่มาส่งลูกเราก็ดูไม่ค่อยน่าไว้ใจเลย แต่ก็ไม่กล้าจะเตือนลูก เฮ้อ! อีกไม่กี่วันก็จะถึงวันลอยกระทงแล้วด้วย พี่อยากจะชวนลูกของเราไปลอยกระทงด้วยจัง แต่ไม่รู้ว่าลูกจะยอมไปด้วยหรือเปล่า"

หลังจากวันนี้ผ่านไป ในทุก ๆ วัน แสงแขเอาแต่เฝ้าโทรหา โทรคุยกับเมฆ ชีวิตของเธอส่วนใหญ่อยู่แต่ในห้องนอน เธอคิดถึงแต่หนุ่มคนนี้จนไม่เป็นอันกินอันนอน สาวน้อยได้ตกหลุมรักหนุ่มเมฆเข้าอย่างจังแล้วสิ ในใจของเธอเฝ้ารอว่า อีกกี่วันหนอถึงจะเจอกับเขาอีกครั้ง ตนจะสารภาพความในใจออกมาให้หมด
ฝ่ายผู้เป็นพ่อเห็นลูกสาวเพิ่งจะมีความรักเป็นครั้งแรก และด้วยความเป็นห่วงจึงเดินเข้ามาเคาะประตูห้องลูกเบา ๆ
พ่อ: "ลูกจ๋า ออกมากินข้าวพร้อมพ่อมั้ย วันนี้พ่อทำกับข้าวที่ลูกชอบเอาไว้ให้ด้วยนะ แล้วลูก..."
แสงแข: "อย่ามายุ่งน่ะพ่อ หนูบอกพ่อกี่ครั้งแล้ว ว่าอย่าแอบฟังคนคุยโทรศัพท์กัน หนูขอล่ะ ให้อิสระกับหนูบ้าง แล้วถ้าพ่อหิว พ่อก็กินไปก่อนเลย เดี๋ยวสักพักหนูหิว หนูก็ออกไปกินเองแหละ ไม่ต้องห่วงหรอก ไม่ปล่อยให้ตัวเองอดตายแน่นอน"

วันเวลาผ่านไปอีก 1 สัปดาห์ วันนี้ก็เป็นวันลอยกระทง และแล้วสิ่งที่แสงแขเฝ้ารอคอยก็มาถึง เมฆได้โทรมาชวนแสงแขไปลอยกระทงด้วยกันในค่ำคืนนี้ หลังคุยกันจบ ทันทีที่วางสายจากเมฆ แสงแขรู้สึกดีใจ และปลื้มใจยิ่งนัก ราวกับต้นไม้ได้รับน้ำอย่างชุ่มฉ่ำ เวลาที่ไม่ได้เจอเขาเพียงแค่ 1 สัปดาห์กว่าจะได้เจอกันอีกครั้งทำไมรู้มันนานอย่างนี้ นี่สินะที่เขาเรียกว่าความรัก
ในช่วงเย็นใกล้ค่ำ แสงแขรีบอาบน้ำแต่งตัว วันนี้จะต้องสวยที่สุด เพื่อทำให้พี่เมฆประทับใจในตัวเธอให้ได้ แสงแขคิดในใจ และที่สำคัญตอนนี้เป็นโอกาสดี เพราะพ่อออกไปธุระนอกบ้าน กว่าจะกลับก็คงค่ำ ๆ ต้องรีบแต่งตัวให้เสร็จและออกไปก่อนพ่อกลับมา พ่อจะได้ไม่มาขวางความรักของแสงแขและเมฆอีก

ที่บริเวณหน้าบ้าน ณ ตอนนี้เมฆมาถึงก่อนเวลาที่แสงแขนัดให้มารับ ในขณะที่กำลังยืนรอแสงแขอยู่หน้าบ้านนั้น บังเอิญพ่อกลับมาทันพอดี วันนี้พ่อกลับมาเร็วกว่าปกติเพราะในใจคิดว่า ลองชวนลูกสาวไปลอยกระทงดู เผื่อเธอว่าง แต่บังเอิญเมื่อพ่อเดินเข้ามาใกล้ ๆ หนุ่มเมฆจากด้านหลัง ก็เผลอไปได้ยินเมฆกำลังโทรศัพท์คุยกับเพื่อนหรือใครสักคนว่า



เมฆ: "เออ ๆ กูรู้แล้วหน่า มึงไม่ต้องห่วง ผู้หญิงพรรณนี้น่ะกูไม่เอามาทำเมียหรอก แก่แดดจะตาย ฮ่า ๆ ระดับกูจะเอาทำไมวะ เอาหน่า ขอแค่ทีเดียวก็ก็จะชิ่งหนีล่ะ โอเค ๆ แค่นี้นะ กูอยู่ที่หน้าบ้านเขาแล้ว"

พ่อได้ยินทุกอย่าง ตอนนี้พ่อรู้สึกโกรธมาก ๆ ไอ้หนุ่มคนนี้อายุก็น่าจะราว ๆ 30 กว่าได้แล้วมั้ง คิดจะมาหลอกลูกสาวพ่อ อายุแค่ 15 ปีที่ยังเป็นเด็กอยู่ ด้วยความโมโหจัด พ่อจึงรีบตะโกนออกไปหาหนุ่มเมฆคนนี้ว่า
พ่อ: "เห้ย! ไอ้หนุ่ม เอ็งคิดจะทำอะไร อย่าคิดนะว่าข้าไม่รู้ เอ็งเลิกมาหลอก มายุ่งกับลูกสาวข้าได้แล้ว เธอยังเด็ก ตามไม่ทันเอ็งหรอกไอ้หนุ่ม"
เมฆ: "ทำอะไร ผมไม่ได้หลอก หรือยุ่งอะไรเลย ลูกสาวลุงต่างหากวัน ๆ เอาแต่โทรหาผมเอง"
เมฆรีบปฏิเสธออกไปอย่างเสียงแข็ง สักพักแสงแขได้ยินเสียงเอะอะ จึงรีบออกมาคั่นกลาง
แสงแข: "อ้าว! พี่เมฆ มาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ ทำไมไม่โทรหาน้อง"
พูดเสร็จก็หันไปหาพ่อ
แสงแข: "อ้าว! พ่อ แล้วนี่ทำไมกลับเร็วจัง แล้วเมื่อกี้พ่อตะโกนทำไมเสียงดัง หรือไปต่อว่าอะไรพี่เมฆเขาอีก เขาเป็นแขกมาบ้านเรานะพ่อ เราควรต้อนรับเขาดี ๆ หน่อยสิ อย่าเสียมารยาท"
พูดเสร็จแสงแขก็รีบชวนเมฆขับรถมอเตอร์ไซค์ออกไปในทันที ในขณะนี้เอง พ่อได้วิ่งตามแล้วตะโกนเสียงดังตามหลังว่า
พ่อ: "ลูกจ๋า อย่าไปกับมันนะ อย่าไปหลงเชื่อมัน พ่อได้ยินมันคุยโทรศัพท์กับเพื่อน มันคิดจะหลอกลูกไปทำมิดีมิร้ายนะลูก ลูกตามเล่ห์เหลี่ยมของมันไม่ทันหรอก"

รถมอเตอร์ไซค์หยุด และจอดในทันที ไม่รู้แสงแขกับเมฆคุยอะไรกัน แต่แล้วแสงแขก็เดินกลับมา ตรงเข้ามาหาพ่อ
แสงแขตะโกนต่อว่าพ่อเสียงดัง: "พอได้แล้วพ่อ หนูอายเขานะ แล้วอีกอย่าง หนูโตแล้ว พ่อเลิกยุ่งกับเรื่องส่วนตัวหนูสักทีเหอะ"
พ่อ: "ละ...ลูกจ๋า ดูนี่นะ พ่อเก็บดอกซ่อนกลิ่นมาให้ลูกด้วย พ่อรู้ว่าลูกชอบ กลางคืนแบบนี้มันหอมดีนะ ละ...แล้วลูกฟังพ่อหน่อยนะ พ่อขอพูดแค่นาทีเดียว"
ด้วยความโมโหอย่างสุดขีดของแสงแข คำพูดของพ่อดูจะไม่เข้าหูแสงแขเลย วันนี้แสงแขแต่งตัวสวย เธอใส่รองเท้าคู่สีแดงที่พ่อเคยซื้อให้ในวันเกิด มือนึงเธอคว้าดอกซ่อนกลิ่นที่พ่อเก็บมาให้เอาไว้ อีกมือนึงเธอถอดรองเท้าข้างนึงเอาไว้ เธอชูร้องเท้าขึ้นสูงเหนือหัว แล้วจึงฟาดลงอย่างจังเข้าไปที่ใบหน้าของพ่อ จนพ่อเซล้มลงกับพื้น เสียงฟ้าร้องคำราม ฝนเริ่มตกลงมาแล้ว น้ำตาพ่อเริ่มไหล ใบหน้าพ่อเปื้อนไปด้วยน้ำฝนคละเคล้ากับหยดน้ำตา สายตาอันฝ้าฟางของพ่อเหลือบมองดูแสงแขจนสุดสายตา ราวกับจะรู้ว่าต้องเกิดเรื่องไม่ดีกับลูกสาวพ่อแน่ ๆ ในค่ำคืนนี้ แสงแขกับเมฆขับรถออกไปไกลออกไป แต่ดอกซ่อนกลิ่นที่เธอถือไปด้วยเริ่มส่งกลิ่นหอมอบอวนไปทั่วบริเวณ อย่างน่าแปลกประหลาดและสยดสยองยิ่งนัก


แสงแขกอดเอวเมฆ เธอขยับเข้าไปใกล้ ๆ จนชิดแผ่นหลังเขา ค่ำคืนนี้เธอจะได้ลอยกระทงกับชายคนรักเป็นครั้งแรก แสงแขรู้สึกปลื้มใจอยู่ไม่น้อย
แต่ทว่าดูเหมือนเมฆเร่งความเร็วรถ เขาพยายามรีบขับ แถมเส้นทางก็ยิ่งออกห่างจากในเมืองเข้าไปในป่าทุกที เหลือบมองดูบริเวณข้างทางก็ไม่เห็นมีลำธาร
แสงแข: "พี่เมฆคะ ทำไมพี่ขับรถเร็วจัง แล้วนี่เรากำลงจะไปไหนกันคะ พี่มาผิดทางหรือเปล่า เหมือนเรากำลังขับเข้าป่านะคะ กระทงก็ยังไม่มี ไม่ได้ซื้อเลยนะ พี่เมฆคะ ทำไมเงียบไป"
เมฆไม่พูดอะไร แต่เหมือนเขากำลังรีบทำเวลาเพื่อแข่งกับอะไรสักอย่าง เมฆขับเข้าไปในป่าลึกขึ้นเรื่อย ๆ ดอกซ่อนกลิ่นที่แสงแขถือมาด้วยค่อย ๆ ร่วงหล่นหายไปตามทางเพราะกระแสลมที่พัด และแล้วสุดปลายทางมีกระท่อมหลังหนึ่ง เมฆจึงขับรถมาจอดแอบ ๆ อยู่บริเวณข้างกระท่อม
แสงแข: "พี่เมฆคะ ที่นี่ที่ไหนกัน แล้ว ๆ ไม่เห็นมีลำธารลอยกระทงเลย เรามาทำอะไรที่นี่คะ น้องรู้สึกกลัว ๆ แล้วสิ น้องว่าเรากลับกันดีกว่ามั้ยคะ"

ฝนเริ่มตกลงมาอีกครั้ง เมฆได้พาแสงแขเข้าไปหลบในกระท่อม จากนั้นเมฆจึงปลุกปล้ำข่มขืนแสงแขจนสำเร็จ แต่ทว่าดูเหมือนจะใช้เวลานานกว่าที่เมฆได้คาดไว้ ณ เวลานี้มีรถเก๋งคันงามได้ขับมาจอดที่กระท่อมอีกคัน ปรากฏว่าเป็นเมียของเมฆนั่นเอง เมฆถูกเมียจับได้ว่าพาสาวมาที่กระท่อมแห่งนี้
เมียของเมฆ: "ไอ้เชี่ยเมฆ หนอย! มึงนี่แอบหนีเมียในวันลอยกระทงเหรอ แล้วนี่มึงแอบมากิ๊กมาหลบทำอะไรกันที่กระท่อมหรอกวะ"
แค่ประโยคสั้น ๆ ที่ผู้หญิงคนนั้นตะโกนออกมาก็ทำให้แสงแขสะดุ้ง โลกทั้งใบของเธอพังลงแล้วอยู่ตรงหน้า ชายคนที่เป็นรักแรกของเธอ ชายคนที่เธอยอมทิ้งพ่อ ทำร้ายพ่อ เพียงเพื่อแค่ได้ออกมากับเขา เขาหลอกเธอ? เขามีเมียแล้ว? เธอเป็นชู้กับผัวชาวบ้าน? ทุกคำถามวิ่งเข้าสู่หัวของเธอในช่วงวินาทีนี้

หนุ่มเมฆทำตาตกใจ ขำแบบกลบเกลื่อนเล็กน้อย ก่อนจะรีบแก้ตัวแบบน้ำขุ่น ๆ ออกไปให้เมียตัวเองฟังว่า
เมฆ: "เอ่อ! แหะ ๆ ทะ... ที่รัก ฟังพี่ก่อนนะ พี่ไม่รู้เรื่อง พี่โดนไอ้เด็กแก่แดดคนนี้วางยาปลุกเซ็กซ์ ไม่งั้นพี่ไม่เอามันหรอกจ่ะ ขนาดพ่อแม่มัน มันยังไม่รัก นับประสาอะไรกับพี่ล่ะ พี่ยืนยันเลยจ่ะ ว่าพี่ไม่รู้เรื่อง"
เมฆรีบไปแอบหลังเมียตัวเอง ทำท่าทำทางแบบประจบเมีย
เมียของเมฆ: "เดี๋ยวมึง กูค่อยไปจัดการมึงที่บ้าน ตอนนี้กูขอจัดการไอ้นางเด็กร่านก่อนเหอะ หนอย... หลอกแย่งผัวชาวบ้านเหรอมึง เจอกูหน่อย"
แสงแข: "ปะ... เปล่านะคะพี่ คือว่าหนู..."



ไม่ทันพูดจบประโยค เมียของเมฆได้ตบเธอจนล้มลง ด้วยบาปกรรมที่เธอเคยด่าว่าพ่อ เธอถูกเมียของเมฆต่อยเข้าไปที่ปากจนฟันซี่หน้าหักไปหลายซี่ แล้วด้วยบาปกรรมที่เธอเคยตีหัวพ่อ เธอถูกเมียของเมฆแย่งคว้ารองเท้าเธอตีหัวของเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนหัวแตกเลือดไหลออกมาเป็นทาง

"ผัวะ! ตุ๊บ! เผียะ!" ทั้งมือ ทั้งเท้า และทั้งรองเท้า ที่เมียของเมฆได้ทำร้ายแสงแขจนเกือบสิ้นใจตาย เด็กสาวตัวเล็ก ๆ อย่างแสงแขไม่สามารถสู้กับผู้ใหญ่ร่างตัวโต ๆ อย่างเมียของเมฆได้ แสงแขค่อย ๆ ล้มลง ลมหายใจเธอค่อย ๆ แผ่วเบาลงเรื่อย ๆ ฝนเริ่มตกหนักขึ้น เลือดของแสงแขไหลลงสู่พื้นดินเป็นทาง ส่วนเมฆและเมียของเขาเมื่อสาสมแก่ใจแล้ว จึงพากับขับรถรีบออกจากพื้นที่แห่งนี้ทันที 

ก่อนจะหมดสติ แสงแขได้เห็นภาพพ่อลอยมาตรงหน้า คนที่แสงแขคิดว่าจะรักเธอแบบไม่มีเงื่อนไขแม้เธอจะทำผิดสักเพียงใดก็ตาม เธออยากจะอ้าปากพูดกับภาพที่ลอยมาตรงหน้าเหลือเกิน เธออยากจะขอโทษพ่อในทุก ๆ สิ่งทุก ๆ อย่างที่เธอเคยทำไม่ดีกับพ่อไว้ แต่เธอก็ไม่มีแรงแม้จะอ้าปากพูด แสงแขค่อย ๆ หมดสติลงในทันที



และภาพที่ปรากฏอยู่ตรงหน้าของแสงแข ไม่ใช่แค่เธอฝันไป แต่มันคือพ่อของเธอจริง ๆ พ่อตามรอยดอกซ่อนกลิ่นที่ร่วงมาเป็นทางจนมาเจอ พ่อพยายามยื้อชีวิตลูกสาว รีบโทรหารถพยาบาล
พ่อ: "พ่อมาแล้วลูก พ่ออยู่กับลูกแล้ว ลูกไม่ต้องกลัวอะไรแล้ว ใครก็ได้ ช่วยผมที!"

จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาผ่านมา 10 ปี วันนี้พ่อดูแก่ชราลง และพ่อก็ได้มายืนอยู่ตรงหน้าบ้านที่เดิม พร้อมกับหยิบรูปถ่ายใบเก่า ๆ ที่เป็นรูปของภรรยาขึ้นมาดูอีกครั้ง
พ่อ: "ที่รัก จากวันนั้นจนถึงวันนี้ เวลาก็ผ่านมา 10 ปีแล้วสินะ ตอนนี้ลูกอยู่ไกลแสนไกล พี่ฝากเธอช่วยดูแลลูกของเราด้วยนะ"

ข้างหลังของพ่อ ลูกสาวสวมชุดปริญญาค่อย ๆ เดินเข้ามาหา แล้วพูดออกไปว่า
แสงแข: "พ่อคะ หนูกลับมาแล้วค่ะ ตอนนี้หนูเรียนจบปริญญาโทแล้ว"
พ่อหันกลับมามอง พร้อมรอยยิ้มด้วยความดีใจมาก ๆ "อ้าว! ลูก กลับมาทำไมไม่โทรบอกก่อน พ่อจะได้ออกไปรับที่สถานีขนส่ง"
แสงแข: "ก็เพื่อจะมาเซอร์ไพรส์พ่อไงคะ อิอิ อืม! วันนี้หนูประสบความสำเร็จกลับมาแล้ว แต่หนูก็ยังคงจำสิ่งที่เกิดขึ้นกับหนูเมื่อ 10 ปีที่แล้วได้ไม่มีวันลืม หนูขอขอบคุณพ่อนะคะ ที่ช่วยหนู ถ้าไม่มีพ่อ ป่านนี้หนูคงตายไปนานแล้ว และขอบคุณที่พ่อให้อภัยหนูทุกอย่าง ทุกครั้งไม่ว่าหนูจะทำผิดมาแค่ไหนก็ตาม"
พ่อ: "ลูกฟังพ่อนะ พ่อรักลูกมาก พ่อดีใจที่มีลูก พ่อภูมิใจในตัวลูกที่สุด ทุกความสำเร็จของลูกคือของขวัญที่ดีที่สุดในชีวิตพ่อ และคนเราเมื่อผิดแล้วรู้จักแก้ไขปรับปรุงตัวเสียใหม่ให้ดี ก็ถือว่าเป็นคนดีเช่นกันนะลูกนะ เอ้อ! ค่ำคืนนี้สงสัยเราคงต้องได้เลี้ยงฉลองกันหน่อยล่ะ มหาบัญฑิตของพ่อกลับบ้านมาทั้งที อิอิ"

ค่ำคืนนี้สองพ่อลูกคุยกันอย่างมีความสุข


จบเรื่องนี้แล้วครับ

ท่านผู้อ่านครับ ความรักนั้นเป็นสิ่งที่สวยงาม หากเรารู้จักรักให้เป็น รักให้สมวัย และเราไม่จำเป็นจะต้องเลือกเลย หากเราจะรักพ่อแม่ หรือรักแฟน 
ถึงแม้เราจะมีแฟน เราก็ไม่จำเป็นและไม่ควรจะทิ้งพ่อกับแม่นะครับ
สวัสดีครับ (ดูเป็นคลิปอนิเมชั่น ข้างล่างนี้)

แสงแขกับดอกซ่อนกลิ่นในวันลอยกระทง ตอนที่ 1 เด็กน้อยแสงแข


แสงแขกับดอกซ่อนกลิ่นในวันลอยกระทง ตอนที่ 2 ผู้ชายชื่อเมฆ


แสงแขกับดอกซ่อนกลิ่นในวันลอยกระทง ตอนที่ 3 รักที่ต้องเลือก


แสงแขกับดอกซ่อนกลิ่นในวันลอยกระทง ตอนที่ 4 (ตอนจบ) เวรกรรมนั้นคืนสนอง


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมประจำเดือน

ที่มางานประเพณีชักพระ (ลากพระ) เดือน ๑๑ | ตัวอย่างงานจาก อบต.ท่าข้าม หาดใหญ่ [ท่านางข้าม]

 หากพูดถึงประเพณีชักพระ หรือลากพระ ซึ่งเป็นพระเพณีที่สืบต่อกันมาอย่างยาวนานของทางภาคใต้ของประเทศไทย (จะพบประเพณีนี้เป็นส่วนใหญ่)

ตำนานผี คุณยายสปีด || ท่านางข้าม

 เรื่องเล่าสุดสยองที่ถูกสืบต่อกันมา จากโศกนาฏรรมสู่เรื่องราวสุดสยองน่ากลัวของเมืองหาดใหญ่ (จ.สงขลา) ตำนานผี คุณยายสปีด (มีคลิป)

นิทานเรื่อง ทำบุญแต่ได้บาป [ท่านางข้าม]

 กาลครั้งหนึ่ง ในหมู่บ้านเล็ก ๆ มีวัดแห่งหนึ่งที่เป็นศูนย์รวมจิตใจของคนทั้งหมู่บ้าน นายคงมั่นเป็นคนที่ชอบเข้าวัดทำบุญ เขามักจะนำของต่าง ๆ มาถวายพระ นายคงมั่นสามารถท่องจำบทสวดมนต์ต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ และเป็นคนที่เคร่งต่อพิธีกรรมต่าง ๆ ในการทำบุญอย่างมาก