ในบางครั้งบางสิ่งบางอย่างหากเราต้องร้องขอความช่วยเหลือจากคนอื่น มันอาจต้องแลกมาด้วยของอีกอย่างนึง
และนี่คือตัวอย่างเหตุการณ์ นิทานอีสป (เล่าในสไตล์ Blog อาจารย์ X) เรื่อง ม้า นายพราน และกวาง
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว ณ พื้นที่ทุ่งหญ้าเขียวขจี ซึ่งเป็นพื้นที่หากินของบรรดาสัตว์น้อยใหญ่ โดยปกติแล้วสัตว์จะแบ่งอาณาเขตพื้นที่หากินอย่างชัดเจน ยกเว้นเสียแต่ทุ่งหญ้าเขียวผืนนี้ มีสัตว์มาจับจองพื้นที่ด้วยกัน 2 ตัว
นั่นก็คือ ม้า และกวาง ทั้ง 2 ตัวต่างแย่งพื้นที่แห่งนี้กัน ต่างอยากจะได้มาเป็นของตัวเองแต่เพียงผู้เดียว จึงเกิดการทะเลาะวิวาทกัน
ม้าจึงต้องหาวิธีที่จะเอาชนะกวางให้ได้อย่างเด็ดขาด มันจึงออกเดินทางไปหานายพรานคนหนึ่ง เพื่อขอให้นายพรานมาช่วยเหลือ และมาขับไล่กวางตัวนี้ออกจากพื้นที่
และนายพรานบอกกับม้าว่า "งั้นเจ้าต้องให้ข้าใส่อานบนหลัง และใส่บังเหียนที่ปาก เพื่อที่ข้าจะได้พาเจ้าไปขับไล่กวางได้สะดวก"
ม้าได้ฟังก็ยินดีที่จะทำตามโดยดี เพราะคิดว่าจะต้องเอาชนะกวางให้จงได้
และก็เป็นไปตามที่คาดไว้ เพราะด้วยความช่วยเหลือจากนายพราน ม้าจึงมีชัยชนะเหนือกวาง สามารถไล่กวางออกจากพื้นที่ทุ่งหญ้าสีเขียวได้สำเร็จ ม้าดีใจเป็นอย่างมาก จึงได้พูดออกไปกับนายพรานว่า "ฮ่า ๆ ข้าดีใจจัง ต่อไปนี้ข้าจะได้เป็นเจ้าของทุ่งหญ้าแห่งนี้แต่เพียงผู้เดียว ยังไงเสียข้าก็ต้องขอขอบคุณท่านนายพรานมาก ๆ เลยนะ ที่ช่วยเหลือข้าในครั้งนี้ เอ่อ... ว่าแต่ ตอนนี้เสร็จเรื่องแล้ว ท่านช่วยเอาบังเหียนและอานออกให้หน่อนสิ"
นายพรานได้ฟังจึงพูดออกไปว่า "อ่อ... เห็นทีคงไม่ได้หรอกเจ้าม้า ข้าว่าน่าจะเก็บเจ้าเอาไว้ใช้งานต่อดีกว่า เพราะข้าได้ขี่หลังเจ้าแล้วรู้สึกเข้าขากับข้าดี"
สุดท้ายเจ้าม้าก็ต้องตกเป็นทาสรับใช้นายพรานไปจนตลอดชั่วชีวิตของมัน
นิทานจบแล้วครับ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า เมื่อเราหวังผลประโยชน์จากใคร เขาย่อมหวังผลประโยชน์จากตัวเราเช่นกัน
อย่างเช่นม้าตัวนี้จากนิทานเป็นต้น เพราะอยากมีชัยเหลือกวาง เลยต้องไปร้องขอให้นายพรานมาออกแรงขับไล่กวางให้กับตน นายพรานซึ่งเป็นคนแปลกหน้าก็ย่อมหวังผลตอบแทนคืนกลับแน่นอน
เหมือนดั่งในชีวิตจริงนะครับ เมื่อเราต้องการให้คนอื่นมาช่วย โดยเฉพาะยิ่งถ้าเป็นคนแปลกหน้าหรือคนที่ไม่สนิทด้วยแล้วล่ะก็ เราอาจต้องเตรียมตัวรอไว้เลย เขาอาจจะหวังผลตอบแทนเราเป็นแน่ ทางที่ดีหากจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือ เราอาจขอจากคนสนิท หรือญาติมิตรที่ไว้ใจได้เสียดีกว่าครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น