เคยเจอจอมคุยโวโอ้อวดกันมั้ยครับ ไม่ว่าเราจะทำอะไรหรือคุยเกี่ยวกับเรื่องไหน คนประเภทนี้มักจะบอกว่าตัวเองนั้นรู้ดี ช่ำชองอย่างนั้นอย่างนี้ แถมคุยทับถมเป็นการใหญ่ เหมือนดั่งเช่นนิทานเรื่องนี้
นิทานเรื่องนี้มีเค้าโครงมาจาก นิทานอีสปเรื่อง หมาจิ้งจอกกับแมว แต่นำมาเล่าและปรับเปลี่ยนเป็นสไตล์ของ Blog อาจารย์ X ครับ เรื่องมีอยู่ว่า
กาลครั้งหนึ่ง มีหมาจิ้งจอกตัวหนึ่ง เจ้าหมาตัวนี้มันคิดว่าตัวมันนั้นแสนจะฉลาด เพราะมันรู้จักเอาตัวรอดจากศัตรูตั้ง 100 วิธี และแน่นอนว่าเมื่อคิดว่าตัวเองมีความรู้เยอะขนาดนี้ มันก็เที่ยวไปอวดใครต่อใครในป่า เพื่อให้บรรดาสัตว์ตัวอื่น ๆ ได้รู้ถึงความฉลาดของมัน
วันหนึ่งเจ้าหมาจิ้งจอกได้เดินมาพบกับหมู มันจ้องมองดูหมูตัวนี้ แล้วในใจของมันก็คิดว่า เจ้าหมูตัวนี้ช่างดูอ้วนยิ่งนัก หากมีภัยหรือศัตรูมาคงหนีลำบากเป็นแน่ ไม่รอช้ามันจึงเข้าไปคุยโวกึ่งสั่งสอนหมูตัวนี้ทันที
"นี่เจ้าหมู เจ้านี่ช่างอ้วนยิ่งนัก อ้วน ๆ แบบนี้น่ะ คงหนีพ้นจากศัตรูได้ลำบากแน่ ๆ เอางี้ ข้าน่ะมีความรู้ในการรู้จักเอาตัวรอดเป็นร้อยวิธีเลยนะ วันนี้ข้าจะมาสอนเจ้าสัก 1 วิธี ฟังนะ เจ้าน่ะก็แค่ขุดดินให้เป็นรูเอาไว้ แล้วพอภัยมา เจ้าก็มุดลงในรูที่เจ้าขุด เพียงเท่านี้เจ้าก็ปลอดภัยแล้วล่ะ เอาล่ะ วันนี้ข้าต้องไปก่อนล่ะนะ แล้วค่อยคุยกันใหม่นะเจ้าหมูอ้วน"
พอพูดเสร็จเจ้าจิ้งจอกก็ออกตัวเดินจากไป
เจ้าหมูได้ยินแบบนี้ก็งงหนัก จึงพูดตอบไปว่า "หา! เจ้าให้ข้าขุดรูเนี่ยนะ เจ้าจะบ้าหรือเจ้าจิ้งจอก ข้าเป็นหมูนะ จะขุดรูแบบเจ้าได้อย่างไรกัน แต่ข้าก็มีวิธี... อะ...อ่าว... ไปซะแล้ว ยังไม่ทันได้พูดเลย"
ว่าแล้ว สักพักหมาจิ้งจอกก็เดินต่อไปจนมาถึงริมแม่น้ำอีกที่หนึ่ง ณ ที่แห่งนี้เจ้าหมาจิ้งจอกได้มาเจอกับปลาตัวนึงเข้า
หมาจิ้งจอกค่อย ๆ ก้มลงไปดูปลาตัวนี้แบบใกล้ ๆ มันคิดในใจว่า เจ้าปลาตัวนี้ช่างตัวเล็กยิ่งนัก หากต้องเจอกับศัตรูตัวใหญ่กว่าคงอันตราย มันจึงคุยโวออกไปว่า
"นี่เจ้าปลา เจ้านี่ช่างตัวเล็กนะ มันอันตรายรู้มั้ยเวลาต้องเจอกับศัตรูตัวใหญ่กว่าน่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า แต่ไม่เป็นไร ข้าน่ะมีวิธีเอาตัวรอดตั้ง 100 วิธีเลยนะ และข้าก็ใจดี วันนี้ข้าจะสอนเจ้าสักหนึ่งวิธีแล้วกัน ฟังนะ... ง่ายมาก เจ้าก็แค่เห่าออกไป หรือทำเสียงหอน และเมื่อศัตรูได้ยินเสียงเห่าหรือเสียงหอนจากเจ้า จะทำให้มันตกใจ เพราะคิดว่าคงเจอกับสัตว์ที่มีตัวใหญ่กว่ามัน มันก็จะวิ่งหนีเจ้าไปเองแหละ... ฮ่า ฮ่า ฮ่า ง่ายมากใช่มั้ยวิธีนี้ อย่าลืมนำไปใช้ล่ะ ข้าไปก่อนนะ"
พอพูดจบ เจ้าหมาจิ้งจอกก็เดินจากไป
"หา! เจ้าจะบ้าเหรอเจ้าหมาจิ้งจอก ข้าจะเห่าแบบเจ้าได้อย่างไรกัน เอ้า! เดินจากไปเฉยเลย" เจ้าปลาหันมองหมาจิ้งจอกที่กำลังเดินออกไปจนสุดสายตา
อีกพื้นที่นึง เจ้าหมาจิ้งจอกได้มาเจอกับแมวขาวตัวหนึ่ง และเช่นเคย เจ้าหมาจิ้งจอกก็กำลังจะคุยโวให้แมวขาวฟังเหมือนเช่นทุกครั้งที่ผ่านมา
แต่ทว่า ในเบื้องหลังของหมาจิ้งจอก ได้ปรากฏสัตว์ร่างใหญ่ยักษ์ตัวนึงค่อย ๆ เดินมาใกล้ ๆ มันคือ หมาล่าเนื้อดุร้าย มันชอบทำร้ายสัตว์ป่าชนิดอื่น ๆ และชอบล่าสัตว์อื่นมากินเป็นอาหารของมัน
เจ้าแมวขาวไม่รีรอ ด้วยสัญชาตญาณวิธีเอาตัวรอดหนึ่งเดียวของมัน เจ้าแมวขาวรีบกระโจนวิ่งขึ้นต้นไม้อย่างเร็วพลัน ส่วนเจ้าหมาจิ้งจอกกลับตกใจอยู่กับที่ มันคิดไม่ออกว่าจะใช้วิธีไหนในการเอาตัวรอดในครั้งนี้ได้
แมวขาวเห็นหมาจิ้งจอกนิ่งอยู่กับที่จึงรีบตะโกนออกมาว่า "เร็วเข้าเจ้าหมาจิ้งจอก เจ้ามีวิธีเอาตัวรอดได้เป็นร้อยวิธี รีบนำมาใช้สักวิธี รีบเลยก่อนจะไม่ทันการ"
แต่ทว่า ณ เวลานี้ทุกอย่างสายไปเสียแล้ว หมาล่าเนื้อได้ตะครุบเจ้าจิ้งจอกเอาไว้เบื้องใต้ของมัน จากนั้นจึงสังหารหมาจิ้งจอกในทันที
จบเรื่องนี้แล้วครับ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า มีความรู้น้อยแต่เอาตัวรอดได้ ยังดีกว่ามีความรู้เยอะมากแต่เอาตัวรอดไม่ได้
เหมือนในชีวิตจริงนะครับ ไม่ว่าเราจะเรียนจบอะไรมา แต่หากนำมาใช้ในการประกอบอาชีพหรือใช้ประโยชน์ได้ ก็ถือว่ามีคุณค่านะครับ ขอเพียงอย่าได้ดูถูกผู้อื่นเด็ดขาด
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น