จากนิทานชื่อดังที่เชื่อว่าในวัยเด็กหลาย ๆ คนคงเคยได้ยินได้ฟังกันครับ บทความนี้เราจะมาวิเคราะห์กันอีกมุมมองนึง
กาลครั้งหนึ่ง นานมาแล้ว มีเด็กชายคนหนึ่ง เขาได้นำแกะฝูงหนึ่งไปเลี้ยงบนเนินเขา ซึ่งที่นั่นมีอาหาร มีหญ้า เป็นสิ่งที่แกะต้องการ แต่ทว่าบนที่ราบเนินสูงนี้ กลับเป็นที่ที่เงียบ ไม่ค่อยจะมีผู้คนขึ้นมาสักเท่าไหร่ ทำให้เจ้าเด็กชายคนนี้รู้สึกเซ็ง ๆ จนทำให้เขาได้คิดอะไรแผลง ๆ ขึ้นมา
เขาได้กุเรื่องโกหกขึ้นมาว่า ได้มีหมาป่าใจร้ายตัวหนึ่งมากินแกะของเขา เขาจึงได้ตะโกนเสียงดังลั่น ดังก้องไปทั่ว จากเนินเขาเสียงดังก้องไปจนถึงเชิงเขาด้านล่าง ชาวบ้านหลาย ๆ คนต่างพาเสียม พาจอบ บ้างก็พาท่อนไม้ขึ้นไปบนเนินเขานี้ เพื่อหวังจะช่วยเจ้าเด็กชายไล่หมาป่า
แต่พอไปถึงสิ่งที่ชาวบ้านได้พบคือ เสียงหัวเราะเยาะเย้ยจากเด็กชาย บอกว่านี่เป็นการโกหกพวกท่าน เป็นการหยอกล้อกันเล่นเท่านั้น ให้พวกท่านได้สนุกสนาน
แน่นอนว่าต้องมีชาวบ้านจำนวนนึงไม่พอใจ ไม่ตลกด้วย ต่างพากันด่าว่าเด็กชาย แล้วต่างพากันเดินลงเขาไป
ในวันต่อมา เด็กชายก็นึกสนุกแบบเดิมอีก ก็ได้ตะโกนว่า "ช่วยด้วย หมาป่ามากินแกะหมดแล้ว คราวนี้เป็นเรื่องจริงนะ วันก่อนล้อเล่นกับพวกท่าน แต่วันนี้มันมาจริง ๆ"
ชาวบ้าน เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียก ในตอนแรกก็ไม่ค่อยเชื่อ แต่เมื่อได้ยินเสียงร้องเรียกที่ดูเหมือนว่าครั้งนี้น่าจะเป็นจริงเป็นจัง ชาวบ้านส่วนหนึ่งก็ต่างพาอาวุธที่พอหาได้วิ่งขึ้นเขาไปอีก
และก็เช่นเคย ก็ถูกเด็กชายคนนี้หลอก และหัวเราะใส่ จนครั้งนี้ทำให้ชาวบ้านเริ่มโกรธมาก ๆ นอกจากจะด่าทอแล้ว บ้างก็แช่งให้หมาป่ามากินแกะของเด็กคนนี้จริง ๆ
เวลาผ่านไปอีกไม่นานนัก คราวนี้หมาป่ามากินแกะของเด็กชายจริง ๆ เด็กชายกลัวมาก ไม่รู้จะทำอย่างไร ก็ได้แต่ตะโกนขอความช่วยเหลือ เผื่อว่าจะมีคนมาช่วย แต่ทว่าครั้งนี้ชาวบ้านกลับไม่มีใครมาช่วยเลย เพราะคิดว่า เจ้าเด็กคนนี้คงโกหกอีกแน่ ๆ จนเวลาผ่านเลยไปสักครู่ใหญ่ ๆ หมาป่าจึงกินแกะของเด็กคนนี้จนหมดฝูง
ข้อคิดจากเรื่องนี้ (ข้อคิดเดิมครับ)
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า หากเราโกหกเขา ในวันข้างหน้าก็จะไม่มีใครเชื่อถือเราอีก เมื่อเราต้องการความช่วยเหลือขึ้นมาจริง ๆ ก็อาจจะไม่มีใครเชื่อถือและไม่มีใครมาช่วยเหลือเราเลย
วิเคราะห์เรื่องนี้
อย่างที่เกริ่นไว้ตั้งแต่ในตอนต้นครับ เรามาวิเคราะห์พฤติกรรมของเด็กคนนี้กัน
ก่อนอื่นต้องขอบอกแบบนี้ก่อนนะครับ หากมีใครถามว่า เจ้าเด็กคนนี้ผิดไหม ตอบเลยว่าผิดเต็ม ๆ
ถามว่าชั่วไหม ตอบเลยว่าชั่วแน่นอนในเรื่องนี้ คงสมควรแล้วที่เด็กคนนี้จะได้รับผมของการกระทำของเขา
แต่... คนเราคงไม่มีใครชั่วไปหมดเสียทุกอย่างครับ หากด้านนี้เขาไม่ดี ก็ใช่ว่าด้านอื่นเขาจะดีไม่ได้ ดั่งเช่นเรื่องนี้ หากมีใครสักคนที่มองเห็น และอยากจะแก้ไขปัญหาเจ้าเด็กดื้อคนนี้ ไม่อยากให้เขาไปทำแบบนี้กับใคร หรือไม่อยากให้เขามาก่อเรื่องโกหกให้ใครเดือดร้อนอีก แน่นอนครับ คนที่จะมาแก้ปัญหานี้คงต้องมามองสิ่งดี ๆ ที่เด็กคนนี้มี เช่น
- เขาน่าจะเป็นเด็กขยันและรับผิดชอบนะ เพราะดูจากการพาฝูงแกะมากมายมาเลี้ยง มาให้อาหารทุกวัน
- เขาก็แค่อาจเหงาเพราะไม่มีเพื่อนเหมือนคนอื่น ๆ อย่างน้อย ๆ สิ่งดี ๆ อีกข้อของเขาก็คงจะเป็นการที่เขาพยายามจะมีใครสักคน หรืออยากมีเพื่อนที่คอยคุย คอยเล่นสนุกกัน
ดังนั้น ถ้าหากจะแก้ปัญหา ผมคิดว่าเราอาจเข้าไปหาเด็กคนนี้ ชวนคุย และให้ของกินที่อร่อย ๆ กับเขา ให้เขาได้เล่าเรื่องว่าทำไมมาเลี้ยงแกะแบบนี้ทุกวันคนเดียว
- ชมในสิ่งดี ๆ ของเขา เช่น เธอขยันนะเจ้าหนู เธอเก่งมาก เธอเลี้ยงแกะมากมายแบบนี้คนเดียวได้อย่างไร เธอเก่งจริง ๆ
- แนะนำสิ่งที่ไม่ดีกับเขา เช่น เธอเห็นมั้ยเมื่อใดที่เธอทำให้คนอื่นเดือดร้อน เธอก็จะได้รับสิ่งเดือดร้อนนั้นกลับคืนมา ซึ่งเธอไม่อยากเป็นแบบนั้นหรอก เธอเป็นคนดีกว่านั้นมาก ฉันดูออก เธอลองมากินอาหารกับฉันไหม ฉันทำอาหารเผื่อเด็กดีแบบเธอเสมอนะ
อย่างนี้เป็นต้นครับ
หรือใครมีวิธีอื่น ๆ ที่จะช่วยเหลือเด็กคนนี้ได้ ก็สามารถเขียนคอมเม้นเสนอมาได้เลยครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น