เมื่อคุณภรรยาบังเอิญไปเจอเจอกับตุ๊กแก ก็อุทานอย่างเผลอตัวว่า "ว้าย! hee หล่น"
เมื่อคุณภรรยาบังเอิญไปเจอกับงูตัวเล็ก ๆ ก็อุทานอย่างเผลอตัวว่า "อุ๊ย! ตาเถร"
และเมื่อคุณภรรยายังเอิญเจอกับสามีตัวเองในลักษณะแบบไม่ทันตั้งตัว ก็อุทานอย่างเผลอตัวว่า "ว้าย! มนุษย์ผัว"
นางปุก เป็นเมียของนายสีเกลิ้ง เจ้าหล่อนเป็นคนขี้ตกใจมาก ๆ ไม่ว่าจะเจออะไรนิด ๆ หน่อย ๆ หรือแม้กระทั่งเจอผัวตัวเองก็ตาม ชอบอุทานเป็นเสียงแปลก ๆ บ้างก็อุทานเป็นคำหยาบคาย ชนิดที่เรียกได้ว่า บ้าจี้ นั่นเอง ซึ่งทุกครั้งที่เมียของเขาตกใจอะไรสักอย่าง เขาก็ต้องคอยปลอบขวัญ คอยพูดเรียกขวัญเป็นคำโบราณที่ใช้ปลอบเด็ก ๆ ว่า "ขวัญเอย ขวัญมา นะจ๊ะเมียจ๋า" และก็เป็นอยู่แบบนี้ร่ำไป
จนกระทั่งเริ่มทำให้เขารู้สึกอับอาย ไม่กล้าที่จะพาเมียตัวเองเดินไปไหนมาไหนด้วยกัน ครั้นจะไปคนเดียวก็ไม่ได้ เมียไม่อนุญาต อีกทั้งจะยึดตังเก็บเอาไว้หมด ทำให้จะไปไหนทีนึงก็ต้องพาเมียไปด้วยทุกครั้ง
วันหนึ่ง นายสีเกลิ้งได้ยืนยิ้มแบบเลศนัยอยู่หน้าบ้านคนเดียว เพราะเขาได้คิดหาวิธีที่จะแก้อาการบ้าจี้ของเมียตัวเองขึ้นมาได้แล้ว คือต้องทำให้เธอเซอร์ไพรส์หรือประหลาดใจกับอะไรบางอย่าง และสิ่งที่เขาคิดก็คือ นายสีเกลิ้งจะพาเมียตัวเองไปเที่ยวบาร์คาราโอเกะโป๊ (โอโห่! มันคิดได้ไงวะเนี่ย เอ้ย!) เพราะเขามีความเชื่อที่แปลก ๆ คือ เขาคิดว่า เมื่อเมียเห็นอะไรแบบนี้ที่ปกติจะไม่ค่อยชอบ อาจทำให้เธอปรับเปลี่ยนอารมณ์ตัวเอง ส่งผลกระทบให้หายจากอาการบ้าจี้ก็เป็นได้ (เห้ย! นี่มันทำเพื่อเมียหรือทำเพื่อตัวเองวะเนี่ย)
ในตอนแรกนั้น ผู้เป็นเมียยังไม่ค่อยจะยอมสักเท่าไหร่ เพราะใครเลยอยากจะให้ผัวของตัวเองไปเที่ยวบาร์โป๊แบบนี้กันเล่า แต่เนื่องด้วยนายสีเกลิ้งผัวของเจ้าหล่อน อ้างความรู้ใน Google ว่าวิธีนี้จะช่วยรักษาอาการบ้าจี้ให้หายขาดได้ และก็ได้รับปากว่าทำเพื่อเมีย ใจจริงก็ไม่ได้อยากไปเที่ยวอะไรแบบนี้เลย ปกติก็ไม่เคยไปเที่ยวแบบนี้เลยสักครั้ง จึงทำให้เมียต้องทำใจยอมแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก
ณ ร้านบาร์คาราโอเกะโป๊ ในขณะที่ 2 ผัวเมียกำลังจะเดินเข้าประตู ก็ดันมาเจอกับพนักงานเฝ้าประตูหน้าร้านที่จำหน้าของสีเกลิ้งได้ "เอ้า! ว่าไงสีเกลิ้ง สบายดีรึ"
นายสีเกลิ้งรีบหันกลับมามองหน้าเมียตัวเอง และรีบอธิบายเบา ๆ ว่า "เอาะ...อ๋อ... นี่ไอ้โชค เพื่อนกันตอนไปตีกอล์ฟน่ะจ่ะ เราอยู่ก๊วนเดียวกัน มันทำงานที่นี่"
แน่นอนครับท่านผู้อ่าน เขาต้องทำทุกวิธี เพื่อให้เมียเชื่อว่าเขานั้นปกติก็ไม่เคยมาเที่ยวอะไรแบบนี้
และแล้ว นายสีเกลิ้งพาเมียเดินผ่านประตูมาได้แบบหวุดหวิด จากนั้นจึงเข้าไปนั่งในบาร์
ระหว่างนี้ก็มีพนักงานชงเหล้าเดินเข้ามา แต่ด้วยโชคเข้าข้างหรืออะไรก็ไม่รู้ พนักงานคนนี้ก็จำหน้าจำตาของนายสีเกลิ้งได้เช่นกัน "สีเกลิ้ง เอาเหมือนเดิมมั้ย วันนี้"
นายสีเกลิ้งรีบกลับมาทางเมียตัวเองทันที "อ๋อ! นี่น่ะไอ้พล เราเล่นโบว์ลิ่งทีมเดียวกันจ่ะ ผมก็เพิ่งรู้นะว่ามันทำงานที่นี่ด้วย บังเอิญจริง ๆ ฮ่า ฮ่า ฮ่า"
และอีกครั้งที่นายสีเกลิ้งรอดมาได้อย่างหวุดหวิดเช่นเคย
เวลาผ่านไปได้สักพัก มีสาวสวยดาวเต้นนุ่งน้อยห่มน้อยคนนึงเข้ามาใกล้ ๆ แล้วสาวดาวเต้นก็เอ่ยถามมาว่า "ว้าว! พี่สีเกลิ้ง ดีใจจังที่เจอ วันนี้ให้หนูมาเต้นในตักพี่เหมือนเดิมมั้ยคะ"
บ๊ะ! เข้าให้ ผู้เป็นเมียได้ยินแบบนี้ก็รู้สึกโกรธมาก ๆ จึงรีบเดินจ้ำอ้าวออกจากร้านในทันที กะว่าพอถึงบ้านไอ้ผัวบ้าแกต้องตายแน่ ๆ สีเกลิ้งเห็นท่าไม่ดีแล้ว จึงรีบเดินตามไปพยายามหาข้อแก้ตัวมาอธิบายเมียทันที เผื่อว่าอะไร ๆ มันจะดีขึ้น
"เมียจ๋า คุณกำลังเข้าใจผมผิด น้องคนนั้นน่ะเป็นรุ่นน้องที่บริษัท มันแกล้งหาเรื่องผม เพราะมันรู้ว่าผมพาเมียมา มันคิดจะแกล้งหยอกล้อกันเล่น เมียจ๋าอย่าเพิ่งโกรธ เอางี้งั้นเรากลับเลยก็ได้ เดี๋ยวผมเรียกรถแท็กซี่ให้ อ้า! มาพอดี แท็กซี่จอดก่อน จอดก่อน"
รถแท็กซี่หยุดอยู่ตรงหน้านายสีเกลิ้ง แล้วจึงเปิดกระจกลงมาพูดว่า "เอ้า! สีเกลิ้ง แหม่ จุ๊ จุ๊ จุ๊ วันนี้ท่าจะเมามาหนักใช่มั้ยเนี่ย ถึงได้คว้าหญิงหน้าตาโทรม ๆ แก่ ๆ มาแบบนี้ได้ โชคไม่ค่อยดีเลยนะ อ้อ! แล้วให้ไปส่งที่โรงแรมเดิมมั้ย"
และแล้วรุ่งเช้า ทุกคนต่างมางานศพนายสีเกลิ้ง...
จบเรื่องนี้ครับท่านผู้อ่าน
ข้อคิดจากเรื่องนี้ สอนให้รู้ว่า อย่าคิดเจ้าชู้ และโกหกเมียแบบนี้ ไม่งั้นอาจตายได้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า บทความใน Blog อัพโหลดใหม่เรื่อย ๆ อย่าลืมกลับเข้ามาอ่านกันอีกนะครับ แล้วพบกันใหม่ครั้งหน้า กับ Blog อาจารย์ X ค้าบ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น