เรื่องนี้เกิดขึ้นในป่าลึกแห่งหนึ่ง ท่ามกลางบรรยากาศที่ชวนขนหัวลุก และสุดสยองขวัญ ในค่ำคืนที่แสงจันทร์สลัว ๆ...
ณ แคมป์พักแรมกลางป่าลึกแห่งหนึ่ง ใกล้ ๆ บริเวณริมแม่น้ำนั้นเอง ยังมีภูตผีอยู่ 3 ตน กำลังสนทนาปรับทุกข์กันอยู่ ถึงเรื่องชีวิตหลังความตาย ที่ยังไม่สามารถไปผุดไปเกิดได้ เพราะเนื่องด้วยเวรกรรมที่เคยทำมา
ตนที่ 1 เล่าว่า "อันตัวข้า ในสมัยยังมีชีวิตอยู่ อะแอ้ม! ชอบนินทาว่าร้ายคนอื่น ชอบยุยงให้เขาแตกแยกและทะเลาะกัน แอ้ม! จนวันนึง เวรกรรมตามสนอง ชาวบ้านจับได้ว่าข้าทำให้เขาทะเลาะและมีปัญหาไปทั่ว จึงถูกรุมกระทืบจนหลอดลมอักเสบตาย อะแอ้ม! พอตายไปก็ไปผุดไปเกิดไม่ได้ รู้สึกเหมือนมีอะไรมาทิ่มแทงคอตลอดเวลา เจ็บในลำคอน่าเวทนายิ่งนัก อะแอ้ม! โอย... พูดมากแล้วแสบคอ"
ตนที่ 2 เล่าบ้าง "ส่วนตัวข้า สมัยมีชีวิตอยู่ เป็นคนเจ้าชู้ ชอบหลอกลวงให้คนอื่นเจ็บช้ำน้ำใจ พอตายไปก็มีหนามแหลม ๆ มาฝังไว้ที่ขั้วหัวใจ ไปผุดไปเกิดไม่ได้ โอ๊ย! อ้า! นี่ก็ยังรู้สึกเหมือนมีอะไรทิ่มแทงหัวใจเรื่อย ๆ เจ็บทรมานมานานแล้ว อ้า!"
ตนที่ 3 ได้แต่นั่งฟัง ไม่พูดไม่จา หน้าตาซีดเซียว ตัวสั่น เอาแต่ร้องไห้เป็นระยะ ๆ เหมือนกับอาการลงแดง ผีทั้ง 2 ตนแรกเริ่มสงสัยว่าไอ้หมอนี่คงติดเหล้าจนลงแดงตายหรือเปล่า จึงได้แต่ปลอบไปว่า "เฮ้ย! เอ็งอย่าร้องไห้เลย ถึงไหนก็ตายไปแล้ว หักห้ามใจบ้างเถอะวะ ไหนลองเล่ามาซิ ว่าเอ็งเป็นอะไรตาย"
ตนที่ 3 พูดออกมาเสียงสั่น ๆ ว่า "ผะ... ผม ยังไม่ตาย ฮือ ๆ (ร้องไห้พลางพูดพลาง) คะ... คือ ผมมาพักแรม แล้วรู้สึกปวดขี้ ผมแค่มานั่งขี้ข้าง ๆ เต็นท์พักแรมแค่เนี้ย ทำไมพวกพี่ไม่ไปหาที่อื่นคุยกัน ฮือ ๆ"
จบเรื่องนี้ครับ
เรื่องนี้สร้างเพื่อความบันเทิงตลกขำขันคลายเครียด และข้อคิดตอนท้าย คือ หากจะไปไหน ๆ ไม่ว่าจะเป็นการเข้าค่ายพักแรม หรือทำอะไร ระวังตัวอย่าเข้าไปที่เปลี่ยว ๆ คนเดียวนะครับ นอกจากผีแล้ว อาจจะมีสัตว์มีพิษ หรือมีสิ่งอันตรายอื่น ๆ ก็เป็นได้ หากจำเป็นต้องเข้าไปในที่เปลี่ยว ๆ ก็อย่าไปคนเดียวนะครับ เพื่อความปลอดภัยของคุณเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น