ว่ากันว่า ผัวก็คือช้างเท้าหน้า เมียก็คือช้างเท้าหลัง แต่ใครเลยจะรู้ว่าหลายครั้งคราว เท้าหลังนั้นแข็งแรงและมั่นคงกว่าเท้าหน้า...
เรื่องนี้เกิดขึ้นในแถบชนบทแห่งหนึ่ง เล่ากันเป็นนิทานขำขัน (เรื่องโดยช่อง YouTube: AjarnX)
นายดุ๊บดิ๊บ ชายหนุ่มผู้เป็นสามีซึ่งแต่งงานอยู่กินกันมากับภรรยามาหลายปี และเมื่อเวลาผ่าน อะไรหลาย ๆอย่างก็เปลี่ยนแปลงไป เสียงหวาน ๆ จากเมียในสมัยเมื่อก่อน ปัจจุบันกลายเป็นเสียงดุด่าว่ากล่าวกันบ่อยครั้ง ทำให้พักหลัง ๆ นายดุ๊บดิ๊บเริ่มมีอาการทางประสาท กลัวเมียจนขี้หดตดหาย กลัวจนเข้าเส้นประสาทก็ว่าได้
วันหนึ่งในขณะที่นายดุ๊บดิ๊บกำลังจะออกจากบ้าน เพื่อไปพบปะกินเหล้ากับเพื่อนฝูงที่นัดไว้ ทันใดนั้น เมียเดินออกจากบ้านมาเห็นพอดี จึงตะโกนเสียงดังออกไปว่า
"ไอ้มนุษย์ผัว นี่มึงกวาดบ้าน ล้างจานเสร็จแล้วเหรอ ก่อนที่จะออกจากบ้านน่ะ แล้วผ้าล่ะ มึงซักเสร็จแล้วยัง"
จริง ๆ นายดุ๊บดิ๊บทำทุกอย่างเสร็จแล้ว จึงคิดจะออกไปข้างนอกบ้าน แต่ด้วยความตกใจกลัว บวกกับอาการหลอนทางประสาทนิด ๆ จึงลืมไปเลย แต่กลับรีบตอบไปว่า
"จะ จ๋า เมียจ๋า กะ กำลังไปเดี๋ยวนี้แหละจ่ะ"
นายดุ๊บดิ๊บจึงไปเก็บผ้าที่ซักแล้ว เอามาซักซ้ำอีกที (เฮ้ย! เวรกรรมแท้ ๆ 😀😀😀)
วันแล้ววันเล่า จึงทำให้อาการหลอนทางประสาทของเขา มีอาการหนักขึ้น แม้กระทั่งยามหลับ ยังสะดุ้งตื่นขึ้นมาเพ้อ
"ห๊า! กะ กำลังไปซักให้เดี๋ยวนี้แหละจ้า เมียจ๋า" (ละเมอถึงเรื่องซักผ้า)
เมื่อเป็นอย่างนี้นานเข้า หลาย ๆ หน เขาจึงตัดสินใจโทรไปหาเพื่อน ๆ เล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนฟัง (นินทาเมียให้เพื่อนฟัง)
ด้วยความอยากรู้ และกึ่งความเผือกอยากรู้เรื่องชาวบ้าน เพื่อน ๆ ชาวบ้านต่างพากันแนะนำเขาต่าง ๆ นา ๆ
เพื่อนบางคนว่า "กูว่าเมียมึงแหละผิด เกิดมากูยังไม่เคยเจอเมียที่ไหนโหดได้แบบนี้ มึงต้องหาวิธีกำราบมันบ้างแล้วล่ะ"
บ้างก็ว่า "กูว่าเมียมึงโดนของ หรืออาจถูกคุณไสยเข้าให้แล้ว อย่าช้านะ มึงต้องรีบทำของแก้เลย กูแนะนำนี่เลย สำนักหมอดู อาจารย์ดินปร้อ อาจารย์ท่านนี้เก่งมาก ๆ เรื่องทำของ หรือแก้ของที่ถูกทำใส่ เรื่องผัว ๆ เมีย ๆ นี่ไว้ใจท่านได้เลย ท่านอยู่ในป่า แถว ๆ เชิงเขาท้ายหมู่บ้านนะ"
เมื่อได้ฟังคำบอกกล่าวจากเพื่อนหลาย ๆ คนเข้าไป บวกกับอาการทางประสาทที่มีอยู่แล้วเป็นทุนเดิม ไม่รอช้า นายดุ๊บดิ๊บจึงหาโอกาศตอนเมียเผลอ แอบย่องหนีออกจากบ้านในทันที
เขาเดินไปจนสุดปลายทางหมู่บ้าน ที่บริเวณท้าย ๆ หมู่บ้านจะมีเชิงเขา ซึ่งเป็นป่าทึบอยู่ เขาจึงรีบออกเดินทางไปทันที
ณ สำนักหมอดู อาจารย์ ดินปร้อ เมื่อนายดุ๊บดิ๊บมาถึง และได้เล่าความเป็นมาเรียบร้อย ท่านอาจารย์จึงได้ทำการจับยาม 3 ตา เพื่อตรวจดูคราวเคราะห์ของนายดุ๊บดิ๊บในทันที และผลออกมาว่า
"โอเค จารย์เห็นแล้ว จารย์เห็นทุกอย่าง เอ็งเข้ามาใกล้ ๆ จารย์ แล้วตั้งใจฟังจารย์ให้ดี ๆ นะลูกนะ"
นายดุ๊บดิ๊บขยับไปใกล้ ๆ พร้อมกับฟังอย่างตั้งใจ "ยังไงครับจารย์"
"ดวงของเอ็งนี่ เป็นดวงเสือหมอบ ที่กำลังรอวันลุกขึ้นมาผงาด แต่ดวงของเมียเอ็งนี่โดนของคุณไสยแล้วแน่นอน จารย์รู้ จารย์เห็น ซึ่งเอ็งจะต้องรีบทำของแก้ ไม่งั้นดวงเสือของเอ็งจะไม่มีวันผงาด ซึ่งอาจถึงตายได้เลยนะเห้ย"
นายดุ๊บดิ๊บตกใจเมื่อได้ยินท่านอาจารย์พูด จึงรีบถามกลับอาจารย์ในทันที
"จารย์ครับ จารย์ จารย์ จารย์ ละ... แล้ว มันมีของวิเศษอะไรบ้างให้ผมบูชา หรือวิธีไหนแก้ดวงแบบนี้ได้บ้างครับจารย์ นะจารย์นะ จารย์ต้องช่วยผม" พลางเอามือเขย่าอาจารย์กลับไปกลับมา เพื่อเป็นการคะยั้นคะยอให้อาจารย์รีบช่วยเขาเร็ว ๆ
อาจารย์จึงหยิบของวิเศษออกมา
"เห้ย ๆ ใจเย็น ๆ พ่อหนุ่ม จารย์มีของวิเศษให้เอ็งแน่นอน อะแฮ่ม! นี่เลย จารย์ขอแนะนำ รองเท้าใส่เตะเมีย เอ็งเอานี่ไปเลยนะ ส่วนการใช้งานไม่ยาก แค่หาจังหวะเหมาะ ๆ ตอนเมียก้มลง หรือโก้งโค้ง แล้วค่อย ๆ เตะบั้นท้ายเมียเบา ๆ เอาแบบเน้น ๆ นะลูกนะ สักทีเดียว รับรองหาย เหอ เหอ เหอ" อาจารย์พูดพลางหัวเราะพลาง ๆ ด้วยความมั่นใจในของวิเศษ
"อ้อ ๆ พร้อมกับท่องคาถาหลังจากเตะแล้ว ท่องเบา ๆ ว่า ต่อแต่นี้มึงจงฟังกู แค่นี้แหละ ขั้นตอนง่าย ๆ แต่ได้ผลมานักต่อนักแล้ว"
"โอ้! สุดยอดเลย สาธุครับจารย์ ละ... แล้ว ค่าบูชาเท่าไหร่ครับ" นายดุ๊บดิ๊บรีบเอ่ยถามแบบชนิดเกือบไม่ทันใจตัวเอง
ท่านอาจารย์นึกอยู่ครู่นึงว่าจะให้ราคานี้ดีมั้ย ทันใดนั้นจึงตัดสินใจปล่อยราคานี้ออกมา
"โอเค จารย์สงสารเอ็งที่กำลังเดือดร้อน เลยคิดราคาแบบกันเอง 3,500 บาทก็แล้วกัน เท่านี้พอ จารย์เอาเท่าทุนเลย"
นายดุ๊บดิ๊บรีบล้วงกระเป๋าสตางค์ แต่ล้วงไปล้วงมา นึกขึ้นได้ว่าเมียยึดตังหมดแล้วนี่นา
"อ่า... แย่จัง ทั้งเนื้อทั้งตัวผมมีแค่ 500 บาท ครับจารย์"
"อ้อเหรอ! งั้น 500 ก็ได้ จารย์ให้เลย" อาจารย์รีบตอบและรีบรับเงิน
และแล้ว นายดุ๊บดิ๊บก็ได้ของวิเศษสมใจ เขาจึงรีบกลับบ้าน เพื่อรีบไปทำพิธีกำราบเมียในทันที
ณ บ้านของนายดุ๊บดิ๊บ เมื่อเขาเปิดประตู้เข้าไปแบบเบา ๆ ในขณะที่คุณเมียกำลังกวาดบ้าน และประจวบเหมาะกับช่วงที่เมียกำลังก้มเก็บของในท่าโก้งโค้งอยู่นั้น นายดุ๊บดิ๊บจึงค่อย ๆ เดินย่องเข้าข้างหลัง และจากนั้นจึงทำการเตะบั้นท้ายของมนุษย์เมียแบบเน้น ๆ เข้าไป 1 ครั้ง "ผั๊วะ!"
เมียกระเด็นไปข้างหน้าล้มคะมำ จังหวะนั้นนายดุ๊บดิ๊บรู้สึกสะใจเล็ก ๆ พอนึกขึ้นได้ว่าต้องท่องคาถาด้วย จึงรีบเอานิ้วชี้ขวา ชี้ไปทางคุณเมียแล้วจึงเอ่ยคำคาถาว่า "ต่อแต่นี้มึงจงฟังกู"
จบคาถา เมียลุกขึ้น ไม่พูดพร่ำทำเพลง ตรงเข้าไปตบผัวแรง ๆ 1 ผั๊วะ จนนายดุ๊บดิ๊บพลาดเอาตูดกระแทบลงพื้น จากนั้นคุณเมียถึงถีบซ้ำ และเหยียบซ้ำรัว ๆ "เมิงบ้าไปแล้วเหรอ ไอเชี้ย อยู่ดี ๆ ก็มาเตะตูดกู ไอ้ผัวบ้า นี่แน่ะ นี่แน่ะ นี่แนะ"
นายดุ๊บดิ๊บ รู้สึกงง ๆ พร้อมคลางออกมาว่า "โอ๊ยๆๆ ทำไมไม่เป็นไปอย่างที่คิดวะ"
ข้อคิดท้ายเรื่อง
คนเป็นสามีภรรยากัน ต้องมีเรื่องกระทบกระทั่งกันเป็นเรื่องธรรมดา หากมีปัญหาอะไรกัน จงหันหน้าคุยกันในตอนที่อารมณ์ดี ๆ ด้วยเหตุผล
เมื่อทะเลาะกัน จงให้เบาที่สุด และอย่านำคู่รักไปนินทาให้คนอื่นฟัง
ปรับความเข้าใจกัน ดูแลกัน นึกถึงวันที่เคยรักกันนะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น